xs
xsm
sm
md
lg

“สุรศักดิ์” ลงพื้นที่บางบาล จ.อยุธยา พร้อม “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำ-เยี่ยมผู้ประสบภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุรศักดิ์” ลงพื้นที่บางบาล จ.อยุธยา พร้อม “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำ-เยี่ยมผู้ประสบภัย สั่งการ สสน. - จิสด้า ใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมบูรณาการจังหวัดวางแผนแก้ไขระยะยาว

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 68 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพ โดยมีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) และ ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (จิสด้า) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม

โดยทางคณะได้เดินทางไปยังลานหน้าวัดโคกหิรัญ (ริมแม่น้ำเจ้าพระยา) ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ที่ลานหน้าวัดโคกหิรัญ (ริมแม่น้ำเจ้าพระยา) มอบเครื่องอุปโภค - บริโภค และยารักษาโรค จำนวน 1,000 ชุด และมอบเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพ เงินสงเคราะห์ครอบครัว ผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปยังถนนหน้าที่ทำการกำนันตำบลบางชะนี เพื่อมอบเครื่องอุปโภค - บริโภค ให้ประชาชนตามบ้านเรือนที่น้ำท่วมด้วย

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ตนมาลงพื้นที่ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะทราบดีว่าพี่น้องชาวจังหวัดอยุธยาต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเกือบจะทุกปี เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำสำคัญจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน เป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้การระบายน้ำลงสู่ทะเลทำได้ยาก และด้วยลักษณะทางกายภาพที่แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงนี้เป็นลักษณะ 'คอขวด' ยิ่งทำให้การไหลระบายน้ำช้าลง ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่อยู่เสมอ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลรับทราบและเข้าใจถึงความยากลำบากนี้ดี และรับรู้ว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนสู้กับภัยธรรมชาติมาโดยตลอด เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามเร่งรัดคิดโครงการและแผนงานเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง รัฐบาลได้มอบหมายให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นผู้กำหนดนโยบายและบริหารจัดการสถานการณ์น้ำอย่างเป็นระบบและบูรณาการร่วมกับกระทรวง อว. นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้บรรเทาภัย

“ว้นนี้ผมได้นำนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.อว. มาร่วมลงพื้นที่ด้วย เพราะแม้ว่ากระทรวง อว. จะรับผิดชอบดูแลด้านการศึกษาระดับสูงเป็นหลัก แต่ อว. ยังกำกับดูแลหน่วยงานด้าน วิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดภาวะภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวันนี้มีผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญภายใต้การกำกับดูแลของ อว. คือ สสน.และ จิสด้า มาร่วมลงพื้นที่กับเราด้วย และทุกท่านจะร่วมหารือกับทางจังหวัดเพื่อนำข้อมูลและเทคโนโลยีเหล่านี้มาวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะต่อไป“ นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นายนิวัฒน์ ได้ขอให้รัฐบาลพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ และทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที รวมถึงพิจารณาค่าชดเชยการ "เสียโอกาส" ในการประกอบอาชีพในแต่ละปี ที่ต้องหยุดชะงักไปถึง 3-4 เดือน เพื่อรองรับน้ำก้อนนี้ไว้ และเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาปัญหาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งทำให้ขาดรายได้ ครอบครัวมีรายได้ลดลง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อีกทั้งปรับปรุงกฎเกณฑ์การเยียวยาให้เหมาะสมและรวดเร็ว กับสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และกำหนดกรอบการให้เงินชดเชยให้มีความ รวดเร็ว ยิ่งขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ขอให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดการแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาอีก ขอให้มีการพิจารณาทบทวนและ ผลักดันการดำเนินงานตามแผนป้องกันสาธารณภัยเจ้าพระยาตอนล่างทั้ง 9 แผนงานโครงการของกรมชลประทาน ที่เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง ให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว














กำลังโหลดความคิดเห็น