xs
xsm
sm
md
lg

สยามไบโอไซเอนซ์ ร่วมมือกับ “eXmoor Pharma” จัดตั้งศูนย์เซลล์และยีนบำบัดระดับโลก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อ 24 ก.ย.68 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ บริษัทผู้ผลิตยาชีววัตถุแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านยาชีววัตถุในภูมิภาคอาเซียน ประกาศความร่วมมือ กับ บริษัท eXmoor Pharma ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและการผลิตเซลล์และยีนบำบัด (Cell and Gene Therapy) จากประเทศอังกฤษ เพื่อก่อตั้งศูนย์เซลล์และยีนบำบัดที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับโลก ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้


ความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเซลล์และยีนบำบัดในประเทศไทย รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจรแก่ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัด ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยมุ่งหวังที่จะส่งมอบยาที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้กับผู้ป่วยต่อไป นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังที่จะดึงดูดการผลิตและการลงทุนจากต่างประเทศสู่ภูมิภาคอีกด้วย


การขับเคลื่อนนวัตกรรมในประเทศและความร่วมมือระดับนานาชาติ

เซลล์และยีนบำบัด คือผลิตภัณฑ์การแพทย์ชั้นสูงที่เป็นยาที่ผลิตจากเทคโนโลยีชีวภาพรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการนำเซลล์จากมนุษย์มาผสมผสานกับสารพันธุกรรม หรือ ยีน เพื่อใช้ในการรักษาโรค โดยในปัจจุบันมีการอนุมัติให้ใช้สำหรับการรักษาโรคร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของโรคมะเร็งและโรคทางพันธุกรรม กระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัด เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ซับซ้อนและประกอบด้วยหลายขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการเก็บเซลล์จากผู้ป่วย การขนส่งตัวอย่างจากโรงพยาบาลไปยังสถานที่ผลิต การเพิ่มจำนวนเซลล์ การปรับปรุงยีน และการนำเซลล์กลับเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย โดยในแต่ละขั้นตอนจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความระมัดระวัง รวมถึงต้องตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ป่วย


ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่าง บริษัท eXmoor และ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ในครั้งนี้ ทั้งสองบริษัทจะนำความเชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่จากทั้งสองฝ่ายมาใช้เพื่อให้บริการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาและดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาวิธีวิเคราะห์ ไปจนถึงการผลิตในระดับคลินิกและเชิงพาณิชย์ ตามมาตรฐานการผลิตที่ดี หรือ Good Manufacturing Practice (GMP) โดยศูนย์เซลล์และยีนบำบัดแห่งใหม่นี้จะตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของพื้นที่โรงงานของ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จังหวัด นนทบุรี


ศูนย์เซลล์และยีนบำบัดนี้จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการให้แก่ผู้ป่วยในไทยและในภูมิภาคอาเซียน เข้าถึงรักษาด้วยเซลล์และยีนบำบัดตามมาตรฐานระดับโลก ซึ่งจะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้แก่ระบบสาธารณสุขในภูมิภาค โดยความสามารถในการที่นำการรักษาระดับโลกมาสู่ประเทศและภูมิภาคอาเซียนนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับยาเร็วขึ้น ลดต้นทุนด้านการขนส่ง ส่งผลให้ผู้ป่วยในไทยและอาเซียนเข้าถึงยากลุ่มนี้ได้เท่าเทียมกับภูมิภาคชั้นนำอื่นๆ ของโลก


แองเจลา ออสบอร์น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท eXmoor Pharma กล่าวว่า “บริษัท eXmoor Pharma มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อจัดตั้งศูนย์เซลล์และยีนบำบัดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การผนึกกำลังกันระหว่าง บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งเป็นผู้นำในภูมิภาค และบริษัท eXmoor ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระดับโลกด้านการพัฒนาและผลิตเซลล์และยีนบำบัด จะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนการวิจัย พัฒนา และการผลิตภายในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น และยังช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านเซลล์และยีนบำบัดได้อย่างรวดเร็ว”


ดร.ทรงพล ดีจงกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ กล่าวว่า "ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีของบริษัท eXmoor Pharma ในการพัฒนาและผลิตเซลล์และยีนบำบัดในระดับสากล จะช่วยผลักดันการรักษาด้วยเซลล์และยีนบำบัดในประเทศไทยและภูมิภาคให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ โดยศูนย์เซลล์และยีนบำบัดที่จะจัดตั้งขึ้นจะสนับสนุนงานวิจัยให้สามารถพัฒนาไปสู่ท้องตลาดตามมาตรฐานระดับโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”


คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ กล่าวว่า "เนื่องจากการใช้เซลล์และยีนบำบัดสามารถรักษาโรคร้ายแรงเช่นมะเร็งและโรคพันธุกรรมได้เป็นอย่างดี และมีผลลัพธ์ที่ดีออกมาเรื่อยๆ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูงและทันสมัยแก่ผู้ป่วยชาวไทย นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมศักยภาพของบริษัท ที่ได้ดำเนินการผลิตยาชีววัตถุมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ โดยความร่วมมือใหม่นี้จะทำให้บริษัทสามารถช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาทั้งแบบทั่วไปและแบบมุ่งเป้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาด้วยเซลล์และยีนบำบัดซึ่งมีประสิทธิภาพสูงนี้ และสามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วยโรคร้ายแรงได้ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่มุ่งมั่นจะนำสุขภาพที่ดีมาสู่คนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาค”
กำลังโหลดความคิดเห็น