กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เตรียมจัดเวทีสรุปผล “การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน” ปี 2566–2568 ในวันที่ 25 กันยายน 2568 ณ โรงแรม เดอ ไพร์ม รางน้ำ กรุงเทพฯ โดยมีภาคีเครือข่ายกว่า 50 คนจากทั่วประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ร่วมแลกเปลี่ยนบทเรียนและต่อยอดการขับเคลื่อนสื่อสร้างสรรค์
งานนี้ไม่เพียงนำเสนอผลงานตลอด 2 ปีที่ผ่านมาของโครงการ “ขับเคลื่อนเครือข่ายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สู่ชุมชน สร้างสังคมเข้มแข็ง” ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุกของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในการปลุกพลังภาคีเครือข่ายภูมิภาคทั่วไทย ระดมความคิดเพื่อสร้างแนวทางใหม่ ลดสื่อขยะ เพิ่มพื้นที่สื่อน้ำดี และเสริมทักษะรู้เท่าทันสื่อ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน เพื่อปกป้องสังคมไทยจากผลกระทบด้านลบของโซเชียลมีเดีย และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ยั่งยืน
เวทีสัมมนาสรุปผลการขับเคลื่อนงาน “การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน” ปี 2566–2568 ยังเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนมุมมอง จุดแข็ง–จุดอ่อน ถอดบทเรียนในแง่มุมความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ ปัญหา อุปสรรคและโอกาส ตลอดจนข้อเสนอแนะจากเครือข่ายผู้ร่วมงาน ผ่านกิจกรรมกลุ่มย่อยและการระดมความคิดเห็น เพื่อวางแนวทางในการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในอนาคตอย่างยั่งยืน
ทั้งหมดนี้คือ ภารกิจตามกฎหมายและความร่วมมือหลายภาคส่วน ที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ดำเนินงานภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดภารกิจสำคัญในการ รณรงค์ ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมทั้งสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อและการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยคณะอนุกรรมการฯ ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสื่อสารมวลชน การคุ้มครองผู้บริโภค การปกครอง การดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส รวมถึงด้านวัฒนธรรม เพื่อให้การทำงานตอบโจทย์สังคมไทยได้รอบด้าน
งานสัมมนาในครั้งนี้ ไม่เพียงนำเสนอผลงานในช่วงปี 2566–2568 แต่ยังเป็นการต่อยอดการทำงาน ขับเคลื่อนให้หน่วยงาน องค์กรและประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตและพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น เป็นการปักหมุดเส้นทางใหม่ของสื่อปลอดภัย สู่การสร้างเครือข่ายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อให้สังคมไทยมีภูมิคุ้มกันทางสื่อ เพราะ “รู้เท่าทันสื่อ คือวัคซีนของสังคม” พร้อมร่วมกันผลักดันพลังสร้างสรรค์ของประชาชนให้ขยายผลอย่างยั่งยืน