xs
xsm
sm
md
lg

ปธพ.7 นำแพทย์อาสาตรวจสุขภาพพระสงฆ์ถวาย 98 พรรษา“สมเด็จพระสังฆราช” ที่สมุทรสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชาวแม่กลองใจฟู คณะนักศึกษา ปธพ.7 ผนึกพลังกับจิตอาสาทุกภาคส่วน จัดโครงการแพทย์อาสาตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ถวาย 98 พรรษาสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดลาดเป้ง สมุทรสงคราม มีพระภิกษุ สามเณร และประชาชนร่วมรับบริการกว่า 500 ราย พร้อมถวายเครี่อง AED และจัดฝึกการกู้ชีพ CPR

​นางสิริเกศ จิรกิติ ประธานนักศึกษาหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 (ปธพ.7) เปิดเผยถึงผลสำเร็จของโครงการหน่วยแพทย์อาสาถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยคณะนักศึกษาปธพ.7 ร่วมกับมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดคลินิกดูแลสุขภาพพระสงฆ์ที่วัดลาดเป้ง สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า นับเป็นโอกาสพิเศษที่ปีนี้สมเด็จพระสังฆราช ทรงเจริญพระชนมายุ 98 พรรษา และยังเป็นกิจกรรมสำคัญยิ่ง เพราะการดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา ให้มีสุขภาพที่ดี ย่อมเป็นเครื่องนำไปสู่ความสำเร็จในการปฏิบัติธรรม

​โครงการตรวจสุขภาพพระสงฆ์เริ่มดำเนินการล่วงหน้ามาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในส่วนของการตรวจเลือดที่ต้องอาศัยห้องปฏิบัติการ โดยมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชนในท้องถิ่น เข้ารับการตรวจสุขภาพกว่า 500 ราย รวมการตรวจทั้งสิ้น 2,475 ครั้ง แบ่งเป็นคลินิกต่างๆ ดังนี้ คลินิกตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเลือด คลินิกคัดกรองโรคปอดจากการเอกซเรย์ปอด คลินิกโรคตับ การตรวจร่างกายเพื่อวินิจฉัยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ และการตรวจวัดสายตาประกอบแว่น โดยผู้เข้ารับบริการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

​ สำหรับวัดลาดเป้ง นับเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่ประชาชนชาวสมุทรสงครามและพื้นที่ใกล้เคียง เข้ามาจัดพิธีทางสงฆ์ และกิจกรรมวัฒนธรรมตามเทศกาลงานบุญต่างๆ เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ดังนั้น ทางโครงการจึงจัดการสอนการกู้ชีพฉุกเฉิน หรือ CPR ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อให้มีความรู้ในการช่วยชีวิต หากเกิดกรณีฉุกเฉินกับพระสงฆ์ หรือศาสนิกชนที่มาทำบุญที่วัด พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพประชาชน โดยมีการบรรยายพิเศษเรื่อง “เวชศาสตร์วิถีชีวิต หรือ Life Style Medicine โดย ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ นายกสมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตและสุขภาพไทย และการบรรยายพิเศษถึงโทษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า โดย นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส ผู้อำนวยการเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ รวมถึงการเปิดคลินิกขับขี่ปลอดภัย พร้อมมอบหมวกกันน็อคแก่ผู้ร่วมอบรม
​นอกจากการตรวจสุขภาพและสอนการกู้ชีพแล้ว คณะนักศึกษา หลักสูตร ปธพ.7 ได้ร่วมกันถวายเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า หรือ เครื่อง AED จำนวน 2 เครื่อง เพื่อให้ทางวัดนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ กล่าวถึงที่มาจองโครงการนี้ว่า เริ่มจัดทำโครงการถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2561 ณ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช โดยคณะทำงานได้ขอประทานอนุญาตดำเนินโครงการต่อเนื่อง ซึ่งพระองค์ท่านได้อนุโมทนาและได้รับสั่งให้ทำต่อจนครบ 9 วัด และในปีนี้องค์สังฆบิดรจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 98 พรรษา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พุทธศาสนิกชนชาวไทยต่างรำลึกถึงรอยแย้มพระสรวลอยู่เป็นนิจ และรำลึกถึงพระสัทธรรม ที่ทรงมีพระเมตตาประทานให้ในวาระต่างๆ ทั้งยามสุขและทุกข์ ทั้งพระจริยวัตรและพระธรรมคำสอน เปรียบเสมือนกระจกเงาที่ฉายชัดถึงพระเมตตา พระกรุณา ที่ทรงมีต่อชาวไทยและเทศโดยไม่เลือกเพศ วัย และชั้นวรรณะ

ดังนั้นมูลนิธิฯ ร่วมกับนักศึกษาหลักสูตรปธพ.ทุกรุ่น จึงร่วมกันดำเนินการถวายการตรวจรักษาพระสงฆ์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องไปแล้วกว่า 30,000 รูป โดยโครงการล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่ 36 “ที่สำคัญนับเป็นการรวมพลังจิตอาสา จากหลายเหล่า หลากสังกัด ที่มาผนึกกำลังกัน เพื่อดูแลรักษาพระภิกษุ อันเป็นพุทธสาวกซึ่งเปรียบเสมือนการถวายรักษาพระพุทธองค์ด้วย”

​ด้านน.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีตสส.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ชาวเมืองสมุทรสงครามต่างยินดี และขอบคุณคณะบุคลากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เสียสละเป็นจิตอาสามารักษาพระภิกษุในพื้นที่สมุทรสงคราม ซึ่งในบางพื้นที่อาจขาดแคลนแพทย์เฉพาะทางในการรักษา และยังมีกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนได้รู้จักวิธีการรักษาสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธี

​“ในฐานะนักศึกษาหลักสูตร ปธพ. รุ่นที่ 7 กิจกรรมครั้งนี้ ต้องขอบพระคุณบุคลาการจากทุกโรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรสงคราม องค์กรส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และทีมงานอสม. ที่ต่างเล็งเห็นความสำคัญ และระดมความสนับสนุนในทุกๆ ด้าน นับเป็นการรวมตัวกันทำความดีในรูปแบบจิตอาสาของชาวปธพ.ทุกรุ่นร่วมกันเป็น “สะพานบุญ” เชื่อมประสานพลังจิดอาสาของบุคลากรทางการแพทย์มาผนวกรวมกันกับพลังจิตอาสาของชาวจังหวัดสมุทรสงคราม จนเป็นพลังแห่งคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง จึงหวังว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบของการสร้างกิจกรรมที่ดีให้ต่อเนื่องตามมาอีก ทั้งในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสงคราม และท้องถิ่นอื่นๆ ที่ยังต้องรอคอยบริการทางการแพทย์ต่อไป”




































กำลังโหลดความคิดเห็น