กระทรวง อว. ประกาศใช้เกณฑ์ตรวจสอบรับรองมาตรฐานหลักสูตรฉบับใหม่ เน้นรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ตามนโยบาย “ศุภมาส” ปลัด อว. เผยใช้ระบบ AI ช่วยตรวจสอบ พร้อมเปิดช่องทาง Fast Track ลดความซ้ำซ้อน
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.68 ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า กระทรวง อว. ได้ออกประกาศ เรื่อง “การรับรองมาตรฐานการอุดมศึกษาของหลักสูตรการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2568” ซึ่งผ่านประชาพิจารณ์จากผู้เกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา (กมอ.) แล้ว โดยประกาศฉบับนี้เป็นการแก้ไขประกาศฉบับเดิม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. ที่ต้องการให้มีการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและรับรองหลักสูตรการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทันต่อความเปลี่ยนแปลง และสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้เรียนสังคม และผู้เกี่ยวข้อง
ปลัดกระทรวง อว.กล่าวต่อว่า ในประกาศฉบับนี้จะมีประเด็นสำคัญ เช่น การตรวจสอบและรับรองหลักสูตรต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน หลังจากสภาสถาบันอุดมศึกษาอนุมัติและแจ้งต่อ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ผ่านระบบสารสนเทศหลักสูตรเพื่อการรับรองมาตรฐานการอุดมศึกษา (Curriculum Information System for Higher Education Accreditation: CISA) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการดำเนินการรับรองมาตรฐานการอุดมศึกษาในหลักสูตรการศึกษาตามประกาศฉบับนี้ โดยใช้ระบบ AI ช่วยในการตรวจสอบหลักสูตรพร้อมประมวลผลข้อมูลก่อนเสนอ กมอ.พิจารณาความถูกต้องเพื่อรับรองผล ใน 3 มิติ ได้แก่ 1. ความสอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร 8 ข้อ 2. ผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา 3. การดำเนินการจัดการศึกษาที่เชื่อมโยงกับผลลัพธ์การเรียนรู้และระบบบริหารหลักสูตรอย่างมีคุณภาพ โดยหลักสูตรที่ผ่านการรับรองจะได้รับการรับรองนาน 5 ปี และสำหรับหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่มีระยะเวลาการศึกษาเกิน 5 ปี จะได้รับการขยายเวลารับรองเพิ่มอีก 1 ปี นอกจากนี้ ต้องมีระบบติดตามผลการดำเนินงานของหลักสูตร ภายในภาคเรียนที่ 1 หลังผู้เรียนรุ่นแรกจบการศึกษา โดยให้สถาบันอุดมศึกษารายงานข้อมูลผลการเรียนรู้ของนักศึกษาและการบริหารหลักสูตรผ่านระบบ CISA
ศ.ดร.ศุภชัย ยังกล่าวอีกว่า ที่สำคัญ ในประกาศดังกล่าวยังเปิดช่องทาง Fast Track หรือช่องทางด่วนพิเศษสำหรับหลักสูตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่างประเทศที่มีชื่อเสียง เพื่อลดความซ้ำซ้อน และลดภาระของสถาบันอุดมศึกษา โดยกำหนดช่องทาง “Fast Track” ใน 2 กรณี คือ 1.หลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานนานาชาติก่อนส่งเอกสาร ให้ยื่นตรวจเฉพาะความสอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐาน 8 ข้อ และ 2.หลักสูตรที่ได้รับการรับรองภายหลังจากที่ได้รับการรับรองโดย กมอ. แล้ว ให้ยื่นขอยกเว้นการติดตามผลการจัดการศึกษา
“การประกาศฉบับนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับคุณภาพอุดมศึกษาไทย ด้วยกระบวนการที่ รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และทันสมัย มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. จะเสนอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลใช้บังคับต่อไป” ศ.ดร.ศุภชัย กล่าว