xs
xsm
sm
md
lg

“ศุภชัย” ผช.รมว.อว.นำทีม กก.สภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาประชุมกับ Macquarie University (MG) ออสเตรเลีย เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศุภชัย” ผช.รมว.อว.นำทีม กก.สภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาประชุมกับ Macquarie University (MG) ออสเตรเลีย เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย เผยสัมพันธ์แน่นเเฟ้น 2 ประเทศ ทั้งพลิกโฉมมหาวิทยาลัย - จัดตั้งศูนย์วิจัยด้านการได้ยินระดับอาเซียน(ASEAN Hearing Hub) - แลกเปลี่ยนอาจารย์ นักศึกษา

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. และกรรมการสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมประชุมหารือกับผู้บริหาร Macquarie University (MG) ณ เครือรัฐออสเตรเลีย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล ตลอดจนร่วมกันวางแนวคิดหรือกำหนดแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ(Best Practice) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละสถาบันในประเทศไทยโดยมี Mr. David Harrison, Executive Director, International Affair, Ms. Katrina Avery, Director of Macquarie Partnerships และ Mr. Stephen Fan, Director of Global Partnerships ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากกระทรวง อว. และสถาบันอุดมศึกษาไทยอย่างอบอุ่น
นายศุภชัย เปิดเผยหลังประชุมว่า Macquarie University (MG) ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายมิติ ทำให้ได้รับการจัดอันดับใน QS World University ranking สูงถึง 133 ของโลก และ THE World University ranking ที่ 178 ของโลก ในปี 2568 และมีความโดดเด่นด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และการส่งเสริมความพร้อมในการทำงานของบัณฑิต (Employability) ซึ่งสะท้อนผ่านแนวทางและโครงการที่โดดเด่นของมหาวิทยาลัย อาทิ การบุกเบิกเทคโนโลยี Wi-Fi ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของนวัตกรรมที่เกิดจากการวิจัยของ Macquarie University ที่ส่งผลกระทบและเปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ พื้นที่ของมหาวิทยาลัยยังมีศูนย์นวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลียที่ชื่อว่า Macquarie Park Innovation District (MPID) ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 300 แห่ง ซึ่งสร้างโอกาสในการวิจัยร่วม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการนำผลงานวิจัยไปใช้จริง รวมถึง มหาวิทยาลัยมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงงานวิจัยเข้ากับภาคอุตสาหกรรม พร้อมให้การสนับสนุนแก่ผู้ริเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ และสตาร์ทอัพ

ด้าน ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่า Macquarie University (MQ) ได้มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพและจุดเด่นของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการมี Macquarie Park Innovation District (MPID) ซึ่งเป็นเขตนวัตกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ภายใน MPID มีบริษัทเอกชนมากกว่า 300 แห่งเข้าร่วมดำเนินงาน ครอบคลุมหลากหลายสาขา อาทิ การแพทย์ การขนส่ง เทคโนโลยีดิจิทัล และการสื่อสารคมนาคม โดยในแต่ละสาขามีบริษัทระดับโลกเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและวิจัย หนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงคือบริษัท Cochlear ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติออสเตรเลียที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและผลิตอุปกรณ์ช่วยฟังแบบฝังใน (implantable hearing solutions) และเป็นผู้นำตลาดในระดับโลกในด้านนี้ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอโดยตัวแทนสมาคมนักเรียนไทยประจำมหาวิทยาลัย Macquarie เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศการเรียนการสอน ตลอดจนกิจกรรมนอกห้องเรียนที่นักศึกษาไทยได้มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ เช่น การจัดกิจกรรมกีฬาฮาเฮ ซึ่งรวมถึงการแข่งขัน "วิ่งเปรี้ยว" และ "กินวิบาก" รวมถึงการทำอาหารไทยเพื่อให้นักศึกษาต่างชาติได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย ซึ่งนับเป็นการแสดงออกถึง soft power ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ

“ช่วงท้ายของการนำเสนอได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง Macquarie University กับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยในหลายมิติ โดยเฉพาะกิจกรรมภายใต้โครงการ “พลิกโฉมมหาวิทยาลัย” (Reinventing University) ซึ่งรวมถึงการจัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อต่าง ๆ การร่วมมือจัดตั้งศูนย์วิจัยด้านการได้ยินระดับอาเซียน หรือ ASEAN Hearing Hub โดยมีมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเจ้าภาพหลัก รวมถึงการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนการจัดกิจกรรมอบรม การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์ และการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยไทยไม่น้อยกว่า 8 แห่ง ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างสถาบันการศึกษาของทั้งสองประเทศ” ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าว














กำลังโหลดความคิดเห็น