ในปัจจุบัน การเรียนภาษาญี่ปุ่นในระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศไทย ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมนักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) กว่า 80% จึงมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นติดตัวมาตั้งแต่ต้น แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีพื้นฐานเลยก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะ TNI ออกแบบหลักสูตรให้นักศึกษาทุกคนต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น จากอาจารย์ผู้สอนชาวญี่ปุ่นเจ้าของภาษา และอาจารย์ชาวไทยที่จบจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นโดยตรง กล่าวได้ว่า TNI คือหนึ่งในไม่กี่สถาบันของไทยที่สามารถผลิตบุคลากรที่มีทักษะภาษาญี่ปุ่นได้มากถึงปีละ 1,000 คน พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานญี่ปุ่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หัวใจสำคัญของการเรียนที่ TNI ไม่ใช่แค่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่คือการเรียนรู้แบบญี่ปุ่นแท้ๆ ผ่านแนวทาง ‘Monodzukuri’ ที่มีรากฐานมาจากหลักคิด ‘5Gens of Monodzukuri’ ได้แก่ Genba (สถานที่จริง), Genbutsu (สิ่งของจริง), Genjitsu (ข้อเท็จจริง), Genri (หลักการ) และ Gensoku (กฎระเบียบ) เพื่อปลูกฝังความเข้าใจในการทำงานแบบญี่ปุ่นให้กับนักศึกษาในทุกหลักสูตรควบคู่ไปกับโมเดลการเรียนรู้ 3PBL+P: Project-based, Problem-based, Practice-based และ Personalized Learning ช่วยให้นักศึกษา คิดเป็น ทำเป็น อย่างสร้างสรรค์ และสามารถต่อยอดสู่การทำงานจริงได้ทันที
อีกหนึ่งสิ่งที่ TNI ให้ความสำคัญอย่างมาก คือการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ไปฝึกงาน (Internship) กับบริษัทญี่ปุ่น ทั้งในประเทศไทย และในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ด้วยความร่วมมือกับเครือข่ายสถานประกอบการญี่ปุ่นมากถึง 70% ของสถานประกอบการทั้งหมด ทำให้นักศึกษาของ TNI ได้ “สัมผัสการทำงานจริงในสไตล์ญี่ปุ่น” อย่างเข้มข้น เรียนรู้วัฒนธรรม วิธีคิด และการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นแบบลึกซึ้ง ในขณะเดียวกัน TNI เองก็รับทราบข้อมูลและเข้าใจความต้องการของบริษัทญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
และได้นำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและการผลิตบุคลากรที่มีความสามารถตรงตามความต้องการของบริษัทญี่ปุ่น ส่งผลให้ทุกปีจะมีบัณฑิตจาก TNI ได้รับโอกาสเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น หรือเครือข่ายบริษัทญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
มายด์-รวิสรา ปลอดมณี ศิษย์เก่าสาขาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น (BJ) คณะบริหารธุรกิจ ปัจจุบันทำงานอยู่ในบริษัท SKK Corporation ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “เหตุผลที่เลือกเรียน TNI เพราะเป็นสถาบันที่เน้นการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติจริง อีกทั้งยังได้เรียนภาษาญี่ปุ่นควบคู่ความรู้ด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งเป็นทักษะที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตมากๆ นอกจากนี้ TNI ยังมีความร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง และมีโครงการแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นจำนวนมาก ทำให้รู้สึกว่าที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ในการเดินหาความฝันค่ะ
และสิ่งที่ TNI ให้กับเรา ทั้งความรู้ ทักษะการทำงานจริง และโอกาสที่หลากหลาย เช่น การได้ไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงคอนเนกชั่น (Connection) กับบริษัทญี่ปุ่นที่เปิดโอกกาสให้ได้เริ่มเส้นทางอาชีพในต่างประเทศ
ส่วนแรงบันดาลใจที่ทำให้ตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่สนใจวัฒนธรรมและวิธีการทำงานของญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็ก พอได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนที่เซ็นได ยิ่งมั่นใจว่าอยากกลับมาทำงานที่นี่ เพื่อเรียนรู้ระบบการทำงานที่มีความเป็นมืออาชีพ และพัฒนาตนเองให้มากขึ้น”
วิน-อนุภัทร ชุณหวิริยะกุล ศิษย์เก่าสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (CE) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บริษัท Castrico Co., ltd. ประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวต่อว่า “สิ่งที่เรียนรู้ในห้องเรียนได้นำมาใช้กับงานที่ทำอยู่ เกือบ 80% ทั้งความรู้พื้นฐานด้านสมองกลฝังตัว การเขียนโปรแกรม ความรู้เรื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งภาษาญี่ปุ่นที่ได้เรียนที่สถาบันด้วยครับ โชคดีหน่อยที่สมัยผมเรียนอยู่สถาบัน ผมทำกิจกรรมเยอะพอตัว ทั้งการเข้าร่วมการแข่งขันต่างๆ การทำชมรมหุ่นยนต์ และช่วยงานอาจารย์ในแต่ละรายวิชา ทำให้ผมมีทักษะและพื้นฐานความรู้ที่แน่นขึ้นครับ
ในเรื่องของความท้าทายในการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นผมมองว่ายังคงเป็นเรื่องของภาษาและการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เราไม่คุ้นเคยครับ นี่ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปของเรากลายเป็นเรื่องท้าทายไปโดยปริยายครับ มันเหมือนเราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในทุกๆ วัน”
ปิ่น-ภควดี สมพงษ์ ศิษย์เก่าสาขาการจัดการอุตสาหกรรม (IM) คณะบริหารธุรกิจ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Mitsuwa Electric Industry Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “TNI คือจุดเริ่มต้นของโอกาส ที่นี่ไม่เพียงให้ความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง แต่ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมเปิดประสบการณ์ฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น
ตอนมัธยมปลายลังเลว่าจะเรียนสายภาษาญี่ปุ่นดีหรือจะเรียนบริหารธุรกิจดี แต่มีความฝันว่าอยากจะมาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ลองค้นหาข้อมูลพบว่า TNI มีสอนภาษาญี่ปุ่นและมีทุนสนับสนุนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นด้วยเลยตัดสินใจเข้าเรียนที่นี่ค่ะ
สิ่งที่เรียนมาได้นำเอามาใช้กับงานได้จริง นอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ทางสถาบันยังสอนเรื่องวัฒนธรรมและแนวความคิดการทำงานแบบญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับ HORENSO (ปรัชญาญี่ปุ่นกับการทำงาน) มาก ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าคนญี่ปุ่นคิดอย่างไร รู้ถึงเหตุและผล ทำให้ทำงานได้ง่ายมากขึ้น”
ขวัญ-วีรภัทร ศักดิกุล ศิษย์เก่าสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Castrico Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “เนื่องจากทางสถาบันมีการจัดการเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับวิชาเฉพาะด้าน IT และมีคอนเนกชั่น (Connection) กับทางบริษัทญี่ปุ่น ทำให้ตัดสินใจเลือกเรียนที่ TNI และเพราะเริ่มสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นจากการดูอนิเมะในวัยเด็ก ทำให้จุดประกายความอยากมาลองใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นดูสักครั้ง
ส่วนการเตรียมตัวก่อนไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ผมศึกษาเพิ่มเติมทั้งในเรื่องภาษา โปรแกรมมิ่งหรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมการทำงาน การใช้ชีวิตในญี่ปุ่น วางแผนการใช้ชีวิตคนเดียวในต่างประเทศ ซึ่งพอมองย้อนกลับไปแล้ว การเตรียมตัวในเรื่องเหล่านี้ ช่วยให้ผมปรับตัวเข้ากับสังคมญี่ปุ่น รวมถึงต้องมาอาศัยอยู่ในต่างประเทศคนเดียวได้ครับ”
และทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นแค่เส้นทางในฝัน แต่เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นจริงกับศิษย์เก่า TNI ซึ่งปัจจุบันมีศิษย์เก่ามากกว่า 200 คน ที่กำลังทำงานและเรียนต่ออยู่ในประเทศญี่ปุ่น “TNI ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นในฝัน แต่คือ ญี่ปุ่นที่ไปถึงได้จริง”
สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) : แตกต่างด้วยภาษา ก้าวหน้าด้วยนวัตกรรม วัฒนธรรมที่หลากหลาย เว็บไซต์ : www.tni.ac.th , Faccbook : https://www.facebook.com/ThaiNichi