xs
xsm
sm
md
lg

บริหารแบรนด์อย่างไรให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ในยุค AI ครองโลก? เปิดมุมมองจากคณาจารย์ด้าน M.B.A. และ M.M. บัณฑิตวิทยาลัย ม.รังสิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในปัจจุบัน AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับการทำงานอย่างมาก แม้แต่ในแวดวงธุรกิจก็ยังนำ AI มาช่วยสร้างแบรนด์ หรือบริหารแบรนด์ได้ ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การสรุปข้อมูล การประมวลผลที่ต้องใช้ Big Data ฯลฯ ที่ AI ทำได้อย่างรวดเร็ว เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานมากขึ้น แถมยังช่วยลดเวลา ลดต้นทุนได้อีกด้วย

ผู้จัดการออนไลน์ จะพาไปสำรวจมุมมองจากคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน M.B.A.และ M.M. (MASTER OF MANAGEMENT) ต่อประเด็นคำถามที่ว่าเราจะบริหารแบรนด์อย่างไรในยุค AI ครองโลก? ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่เป็นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ที่กำลังอยากสร้างแบรนด์ มองเห็นก้าวต่อไปของการทำธุรกิจยุค AI ในอนาคต

การบริหารแบรนด์ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท


การทำธุรกิจในยุคนี้ ต้องการเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยลดต้นทุน AI จึงเป็นเครื่องมือสมัยใหม่ที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องรู้
 
ในมุมมองของ ดร.ปิยภรณ์ ชูชีพ ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ (MASTER OF MANAGEMENT: M.M.) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต เห็นว่า การเป็นผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิเสธ AI ได้ ซึ่ง AI เข้ามาแล้ว และในอนาคตจะยังคงอยู่ตลอดไป โดย AI จะเป็นผู้ช่วยสร้างแบรนด์และบริหารแบรนด์ได้ดี มีความสำคัญอย่างมากเลยกับผู้ประกอบการ เจ้าของแบรนด์หรือนักธุรกิจ ที่จะใช้เป็นเครื่องมือทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดภาระการทำงานของพนักงาน ช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
 
“AI ทำให้เกิดผลกระทบด้านบวกและด้านลบ โดยด้านบวกคือ เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว เป็นการแบ่งเบาภาระ เพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาทำงาน 5 นาที อาจจะเหลือแค่ 1 นาที เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจได้ ส่วนผลกระทบทางลบในเบื้องต้น คือ พนักงานต้องปรับตัว คนที่เป็นผู้ประกอบการ ผู้บริหารต้องเตรียมความพร้อมให้พนักงานใช้ AI อาจจะต้องให้พนักงาน Upskills และ Reskills ทางด้าน AI”


ดร.ณกมล จันทร์สม ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่า AI จะช่วยให้ทำอะไรได้เยอะกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสื่อ สร้างภาพ ที่ AI ทำได้รวดเร็วมาก AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้ เช่น คนกลุ่มนี้ อายุเท่านี้ มีพฤติกรรมแบบนี้ ชอบสื่อแบบไหน ต้องใช้รูปภาพแบบไหน ต้องใช้น้ำเสียงแบบไหนที่จะตรงใจลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายมากขึ้น แถมยังช่วยลดต้นทุนเรื่องกำลังคน เรื่องเวลาได้
 
“การสร้างหรือบริหารแบรนด์เราสามารถใช้ AI ช่วยได้ เช่น เรื่องความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์สื่อต่าง ๆ สร้างสรรค์รูปภาพต่าง ๆ หรือในเรื่องของ Big Data เรื่องของข้อมูลผู้บริโภค การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค ฯลฯ ที่ AI ทำได้เป็นอย่างดี” 


การทำธุรกิจยุคใหม่
มนุษย์ยังจำเป็นอยู่หรือไม่?


แม้ว่า AI จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง แต่ในการทำธุรกิจสิ่งที่จะทำให้แบรนด์โดดเด่นและแตกต่าง อาจารย์จาก M.B.A. และ M.M. มองว่า ยังเป็นหน้าที่ของมนุษย์ เพราะ AI ยังไม่สามารถทำแทนได้ 100 เปอร์เซ็นต์

ดร.ณกมล จันทร์สม กล่าวต่อถึงประเด็นดังกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI สามารถเข้ามาช่วยบริหารแบรนด์ได้จริง ๆ และอนาคตจะช่วยมากขึ้นอีกด้วย โดยการสร้างแบรนด์มีกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งสำคัญเลยก็คือ Brand Essence แก่นหลักของแบรนด์หรือสิ่งที่แบรนด์ยึดถือสูงสุด

“แบรนด์ คือการเอาสินค้าหรือการบริการของเราสื่อให้ตรงกับอารมณ์ของผู้บริโภค เราจะต้องทำสินค้าหรือการบริการให้ถูกใจผู้บริโภคเพื่อให้สินค้าขายได้ โดยการสร้างแบรนด์หรือบริหารแบรนด์นั้นมีกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะทำยังไงให้ผู้บริโภคสนใจสินค้า ดังนั้นแบรนด์ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการสื่อสารอะไรกับผู้บริโภค อะไรคือเนื้อแท้ของแบรนด์”

ดร.ณกมล จันทร์สม ยังมองว่า โดยส่วนตัวไม่คิดว่า AI จะมาแทนมนุษย์ได้ 100% เพราะสิ่งที่ AI ทำไม่ได้คือความเป็นมนุษย์ ความจริงใจ ความเห็นอกเห็นใจ การแก้ปัญหาต่าง ๆ คนที่นำ AI ไปใช้จะต้องระมัดระวัง อย่าใช้ AI มาแทนความเป็นมนุษย์มากเกินไป เพราะจะทำให้แบรนด์สูญเสียความเป็นมนุษย์ เราจะไม่เกิดการคิด การศึกษา การพัฒนาเพิ่มเติม อย่าให้ AI มากลืนจนสูญเสียตัวตน ยังไงการสร้างแบรนด์ก็ต้องมีมนุษย์อยู่ดี

“ผู้สร้างแบรนด์ต้องมีองค์ความรู้ระดับหนึ่ง จะต้องพิจารณา ต้องทบทวนอีกรอบหนึ่งเพื่อดูว่าสิ่งที่ AI สร้างนั้นตรงกับแบรนด์ ตรงกับแก่นแท้ของแบรนด์แล้วหรือยัง สร้างความจริงใจให้กับผู้บริโภคแล้วหรือยัง เวลาเราเอา AI ไปใช้ต้องคำนึงถึงเยอะ ๆ ใช้ให้ถูกวิธี ลูกค้าอาจจะชอบสื่อของเรา อาจจะชอบอะไรก็ตามที่ AI ทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ลึกหรือปัญหาที่จะต้องใช้วิจารณญาณ เราในฐานะมนุษย์ ต้องเข้าไปแก้ เข้าไปจัดการ ต้องเอาความเป็นมนุษย์เข้าไปใส่ เอาความเห็นอกเห็นใจเข้าไปใส่ เอาความจริงใจเข้าไปใส่ให้กับลูกค้าด้วย”

ขณะที่ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ (M.M.) ได้ให้มุมมองเสริมเพิ่มเติมว่า “แบรนด์” เป็นการสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ไปยังลูกค้า ดังนั้นการสร้างแบรนด์ขึ้นมาคือเราต้องการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า ซึ่งการเป็นผู้ประกอบการ สัญชาตญาณย่อมสำคัญ ใช้ AI ได้ แต่ยังไงก็ต้องตรวจสอบก่อน สิ่งที่จะทำให้แบรนด์แตกต่างคือ “มนุษย์”

“AI ถ้าใช้ให้เป็นก็เกิดประโยชน์ แต่อย่าให้มาแทนที่ตัวเรา เรายังต้องหาข้อมูล ยังต้องหาความรู้ ยังต้องมีความรู้พื้นฐาน”
“ถามว่า AI จะมาแทนคน 100% ไหม เป็นไปไม่ได้ แต่เอา AI มาเป็นตัวช่วยมากกว่า การทำแบรนด์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ AI เพียงอย่างเดียว เพราะต้องดูองค์ประกอบทุกอย่างว่าตอบโจทย์หรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ ถูกต้องไหม สุดท้ายผู้ประกอบการก็ต้องตัดสินใจเอาเองว่า AI ให้ข้อมูลมาเหมาะสมกับธุรกิจของเราหรือเปล่า เพราะเจ้าของธุรกิจจะรู้จุดเด่นจุดด้อย จุดแข็งของตนเองดีที่สุด”

ทักษะที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์พึงมีในยุค AI


เมื่อถามถึงทักษะที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์พึงมีในยุค AI ดร.ปิยภรณ์ ชูชีพ กล่าวแสดงทัศนะว่า เราจำเป็นต้องตามให้ทัน AI เพราะปัจจุบัน AI มีเครื่องมืออยู่เป็น 10 เป็น 100 แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์พึงต้องมีคือ 4 ทักษะ ได้แก่

1. ทักษะการเตรียมความพร้อมข้อมูล
“เวลาใช้ AI เราย่อมต้องใช้ข้อมูลในการ generate หรือ วิเคราะห์ แต่ถ้าข้อมูลยังไม่เพียงพอ การวิเคราะห์ก็จะไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีได้ ดังนั้นหัวใจหลักสำคัญของการบริหารแบรนด์เลยก็คือ การสื่อสาร การเตรียมความพร้อมข้อมูล เป็นเหมือน information ที่เราจะใช้ป้อนให้กับ AI แต่ทั้งนี้เราต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของการใช้ AI เพราะบางที AI อาจจะไปเข้าถึงข้อมูลบางสิ่งได้ ซึ่งผู้ประกอบการต้องพึงระวัง”

2. ทักษะการตั้งคำถาม
“ปัจจุบันเป็นโลกยุคดิจิทัล โลกในยุคข้อมูลใด ๆ ก็แล้วแต่เยอะแยะมากมาย เราต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ เราจะตั้งคำถามยังไงกับ AI ให้เขาตอบในข้อมูลที่เราต้องการ หรือที่เขาเรียกว่าการตั้ง Prompt ในเมื่อเครื่องมือมีแล้วแต่เราไม่มีสกิลในการตั้งคำถามก็คงไม่มีประโยชน์”

3. ทักษะการเปิดใจ เปิดรับ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาอยู่เสมอ
“เพราะ AI มีเวอร์ชันต่าง ๆ เข้ามารวดเร็วมาก ดังนั้นเราต้องพร้อมเปิดใจ เปิดรับว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง”

4. ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต
“ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ไปตลอดก็จะทำให้ไม่เกิดการพัฒนา การเรียนรู้ส่งผลให้เราพัฒนาไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น”

แนวโน้มการทำธุรกิจในอนาคต
ต้องยอมรับว่าสุดท้ายแล้วเราไม่อาจหลีกเลี่ยง AI ได้ และ AI ก็สามารถช่วยทุ่นแรง ทุ่นเวลาในการทำงานหรือทำธุรกิจได้จริง ๆ ซึ่งอาจารย์จาก M.M.ได้มองภาพอนาคตว่าต่อไปจะเป็น AI+ SUSTAINABLE
“สุดท้ายแล้วเราหลีกเลี่ยง AI ไม่ได้ เพราะคนอื่นใช้กันหมด เราไม่ใช้ก็ไม่ได้ มันล้าหลัง ทั้งนี้ยังเป็นการทุ่นแรง ทุ่นเวลาได้ดี ซึ่งอะไรที่ AI ช่วยได้ก็ให้เขาช่วยไป เราควรเอาศักยภาพของคนไปใช้กับงานส่วนอื่น ๆ จะดีกว่า ดังนั้นเราจำเป็นต้องใช้ AI ปลดล็อกศักยภาพของพนักงาน อนาคตมองว่าจะมีมากกว่า AI อาจจะเป็นคำว่า AI + SUSTAINABLE โดย AI จะต้องมาควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนในองค์การด้วย เราจะทำยังไงที่จะใช้ AI สร้างความยั่งยืน อาจจะนำ AI มาใช้ในการลด Waste ที่เกิดขึ้นในองค์การได้หรือเปล่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจต้องคำนึงต่อไป” ดร.ปิยภรณ์ ชูชีพ กล่าว


M.B.A. – M.M. บัณฑิตวิทยาลัย ม.รังสิต
พร้อมตอบโจทย์ ก้าวทันโลกธุรกิจในอนาคต


บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต มีหลักสูตรรองรับเพื่อตอบโจทย์โลกธุรกิจในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต มี 2 หลักสูตรได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Executive/CEO MBA.) ระยะเวลาหลักสูตร 18 เดือน และหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Twilight M.B.A.) ระยะเวลาหลักสูตร 1 ปี

เป็นหลักสูตรที่มีการนำดิจิทัลหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ได้แก่ การจำลองสถานการณ์ Simulation (ซิมูเลชั่น) ที่ใช้เกมออนไลน์มาสอนการทำธุรกิจ ใช้ AI จำลองสถานการณ์ทางธุรกิจ เพื่อนำองค์ความรู้มาพัฒนาทักษะการทำงานได้อย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีวิชาตัวเลือก เช่น Integrated Marketing Communication (IMC), วิชาการสร้างแบรนด์, วิชาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เป็นต้น

หรือจะเป็นหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ MASTER OF MANAGEMENT (M.M.) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นหลักสูตรที่จะเปิดโอกาสเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ SMEs และ ธุรกิจ Startup ระยะเวลาหลักสูตร 1 ปี

โดยหลักสูตรจะฝึกการเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่ Day 1 มีวิชาพื้นฐาน 4 เสาหลักของการจัดการ ได้แก่ ตลาด การผลิต คน และเงิน ผนวกกับการเรียน Business Plan คือแผนธุรกิจ ศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ พร้อมทั้งมีการศึกษาดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในหลักสูตรมีวิชาที่น่าสนใจอย่าง Special Topic โดยจะเชิญนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ จากหลากหลายภาคธุรกิจ เข้ามาให้ความรู้ มาพูดคุย Business Model ให้ฟัง ว่าทำอย่างไรให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ, มีวิชา Ecommerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สอนเรื่อง Data Analytics การใช้ Social Media Management หรือ การบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย การใช้แพลตฟอร์มตัวไหนที่จะเหมาะสมในการโปรโมทธุรกิจ การฝึกเรียนรู้การเก็บข้อมูล เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยในการใช้ Social Media ต่าง ๆ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง AI มีวิทยากรมาให้ความรู้เรื่อง AI for Business เพื่อจะได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในธุรกิจ อีกทั้งยังมีการจัดการเชิงกลยุทธ์ การเรียนวิจัย ฯลฯ
โดยทางหลักสูตรจะให้ความสำคัญกับการทำแผนธุรกิจ ศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการทำธุรกิจก่อน พร้อมทั้งศึกษาแผนการตลาด แผนการผลิต แผนการเงิน และกำลังคน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการลงมือทำจริง ซึ่งหากจบออกไปแล้วสามารถนำองค์ความรู้กลับไปปฏิบัติใช้กับธุรกิจหรือกับองค์การได้เลยทันที

“อยากเชิญชวนผู้สนใจให้มาเรียน เพราะแม้ว่ายุคนี้เราจะมี AI มีแชท GPT มีสื่อต่าง ๆ มีการเข้าถึงองค์ความรู้ได้มากมายหลากหลายแหล่ง แต่สิ่งที่ไม่สามารถแทนที่การเรียนในห้องเรียนได้ก็คือการมีปฏิสัมพันธ์ของคนด้วยกัน การที่เข้ามาเรียนในห้องเรียนจะได้พบอาจารย์ เพื่อน ได้พูดคุย ได้ทำงานร่วมกัน ได้สังสรรค์ สร้างคอนเนคชั่นต่อยอดการทำธุรกิจต่อไปได้”
“ผลลัพธ์ของการเรียนจะเปลี่ยนชีวิตการทำงาน เปลี่ยนโลกธุรกิจ และทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืน” คณาจารย์จากทั้งสองสาขาวิชากล่าวทิ้งท้าย

บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต ยังมีหลักสูตรปริญญาโท-ปริญญาเอก กว่า 50 หลักสูตร ซึ่งได้มีการเรียนการสอน เพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนเพื่อก้าวเข้าสู่ยุค AI อีกทั้งยังมุ่งเน้นการใช้ AI ในเชิงสร้างสรรค์ มีจรรยาบรรณ มีความรับผิดชอบ เป็นไปตามหลักจริยธรรมและคุณธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับโลกอนาคต

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต อาคารรัตนคุณากร (ตึก11) ชั้น 2 ห้อง 206
โทร 02-997-2200 ต่อ 4001-4005
Email. grad@rsu.ac.th
Facebook : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต
เว็บไซต์ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต


กำลังโหลดความคิดเห็น