กทม. เดินหน้าปฏิบัติการกู้ภัยเร่งด่วน เร่งค้นหาผู้สูญหายในซากตึกถล่ม พร้อมระดมวิศวกร 130 คน ตรวจสอบความปลอดภัยอาคารสูงทั่วกรุง สร้างความมั่นใจให้ประชาชน ย้ำดำเนินการเต็มกำลังเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
วันนี้ (29 มี.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์และภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหววานนี้ ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนเช้านี้ มี 2 เรื่อง คือ หนึ่งเรื่องการกู้ภัยอาคารถล่มที่เขตจตุจักร สั่งการเดินหน้าเต็มที่ ไม่มีการยกเลิกใด ๆ ทั้งสิ้น และมีการปรับยุทธวิธีให้สอดคล้องกับสถานการณ์คือ มีการนำเครื่องมือหนักเข้าไปเพื่อนำชั้นที่ถล่มลงออกมาเข้าไปหาคนที่รอดชีวิตอยู่ด้านใน ทั้งนี้ เมื่อคืนมีการใช้เครื่องมือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในการสแกนพบสัญญาณชีพอยู่ 15 ราย ย้ำว่าเดินหน้าเต็มที่ ห้ามหยุด ห้ามช้า เพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนภารกิจที่ 2 คือ อาคารส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่ประชาชนอาจจะยังกังวล หน้าที่เราคือต้องสร้างความมั่นใจว่าอาคารมีความปลอดภัย ซึ่งวันนี้จะมีการส่งวิศวกรอาสาที่มีอยู่ประมาณ 130 คน เข้าไปตรวจอาคารเหล่านี้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ถ้าเป็นของอาคารภาครัฐ อาคารหน่วยงานราชการ ทางอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งเจ้าหน้าที่ไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ส่วนอาคารเอกชน กทม. กับวิศวกรอาสาจะเข้าไปดูแล โดยเมื่อคืนใน Traffy fondue มีประชาชนแจ้งเรื่องรอยแตกร้าว ประมาณ 2,000 ราย มีหน่วยวิศวกรนั่งตรวจสอบ ซึ่งมีอาคารประมาณ 700 แห่ง ที่ต้องลงไปดูละเอียดในวันนี้ เขตที่แจ้งเข้ามามากที่สุดจะเป็นแถวในชั้นในเนื่องจากมีตึกสูง ส่วนเขตรอบนอกแทบไม่มีเลย ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์น่าจะค่อย ๆ คลี่คลายลง
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ยังมีความกังวลกับการทำงานในตึกสูงวันจันทร์นี้ ต้องเร่งตรวจสอบให้มั่นใจว่าปลอดภัยแล้วค่อยเปิด ซึ่ง 2 วันนี้เป็นช่วงเวลาที่จะต้องเร่งดำเนินการ จากนี้จะออกคำสั่งให้อาคารสูงขนาดใหญ่ซึ่งต้องมีผู้ตรวจสอบอาคารออกมาตรวจสอบอาคารอีกครั้ง แต่เชื่อว่าทุกคนต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดย 2 วันนี้จะมีการระดมสรรพกําลังลงไปตรวจสอบให้มากที่สุด โดยวิศวกรอาสาประมาณ 100 คน กับเคสที่มีการคัดกรองกว่า 700 เคสอาคาร ก็จะเดินหน้าตรวจโดยจัดลำดับความสำคัญ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนตามหลักวิทยาศาสตร์และให้ตั้งสติ เพราะภาพตึกที่พังถล่มเป็นเพียงตึกเดียวและเป็นตึกที่มีการก่อสร้างซึ่งมีหลายปัจจัยให้มีการถล่ม แต่ในข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดี เพราะนอกจากนี้อาคารทั้งหมดไม่มีการพังทลาย และกฎหมายควบคุมอาคารเราก็มีการกําหนดให้ออกแบบรับแผ่นดินไหวอยู่แล้ว
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการจราจรขณะนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ย่านดินแดงทั้งขาเข้า-ขาออก ซึ่งเป็นการจัดการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ต้องไปคุยกับทางผู้รับเหมาของอาคาร ก็ต้องขอเร่งรัดผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะ กทม. เราจัดการเองไม่ได้ ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าใต้ดิน BTS เปิดให้บริการตามปกติเรียบร้อยแล้ว การจราจรน่าจะบรรเทาลงไปได้
สำหรับสวนสาธารณะที่เราเปิดให้เข้าใช้ได้ตลอดเมื่อคืน มีผู้ใช้บริการประมาณ 700 คน ซึ่งเป็นผู้ที่กังวลจากเหตุการณ์ต่าง ๆ โดย กทม. และภาคเอกชนได้ร่วมจัดน้ำและอาหารแจก นี่คือจุดแข็งของคนไทยเมือเกิดวิกฤติเราจะช่วยเหลือกัน โดยวันนี้ยังเปิดสวนต่อตลอด 24 ชม. เพื่อให้คนที่ยังไม่สบายใจมาใช้บริการได้ โดย 2 วันนี้ จะจัดให้มีดนตรีในสวนเพิ่มเติมให้ประชาชนที่อยากอยู่ในที่โล่งมีความสบายใจและผ่อนคลายจิตใจมากยิ่งขึ้น รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
“ต้องบอกว่าสถานการณ์ทั่วไปเริ่มคลี่คลายขึ้นแล้ว เป็นหน้าที่ของเราพยายามนำความเชื่อมั่นกลับมา ต้องยืนยันว่าเมื่อวานแผ่นดินไหวรุนแรงมาก ในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา แต่ว่าอาคารที่พังทลายมีอยู่แค่ 1 อาคาร และเป็นอาคารที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ อาคารที่เหลือ 100% ไม่มีการพังทลาย ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก สถานการณ์จะค่อย ๆ คลี่คลาย อาฟเตอร์ช็อกมีจำนวนน้อยและเบาลง สภาพการจราจรเช้านี้ก็ยังดีอยู่ คนเริ่มปรับการเรื่องเดินทางและเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ ด้วย ขณะนี้จุดกังวลอย่างเดียวคือเร่งเปิดทางด่วน โดยพยายามประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้เสร็จสิ้นทันวันจันทร์ที่จะถึงแน่นอน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว