ผอ.เขตบางกอกใหญ่เปิดค่าย”วิหารศิลปะ” ชี้ศิลปะสำคัญมากช่วยกล่อมเกลาจิตใจผู้คน รับปากช่วยประชาสัมพันธ์ ชี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ผอ.เขตบางกอกใหญ่เปิดค่าย”วิหารศิลปะ” ชี้ศิลปะสำคัญมากช่วยกล่อมเกลาจิตใจผู้คน รับปากช่วยประชาสัมพันธ์ ชี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เด็กๆปลื้มได้ความรู้งานศิลปะหลายแขนง ประธานที่ปรึกษามูลนิธิสุชาติวงษ์ทอง เผยเปิดให้ชมวิหารศิลปะฟรี วันเสาร์-อาทิตย์

นายเกียรติวิสุทธิ์ เพ็ชรหมื่นไวย ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดค่ายวิหารศิลปะ ที่วิหารศิลปะ ซอยอิสรภาพ 27 ใกล้วัดราชสิทธาราม(วัดพลับ) เขตบางกอกใหญ่ จัดโดยมูลนิธิสุชาติวงษ์ทองและเครือข่าย เมื่อเร็วๆนี้ว่า ทุกคนรู้ดีว่าศิลปะมีความสำคัญเพราะเป็นสิ่งกล่อมเกลาจิตใจของคนเรา จะสังเกตได้ว่าเวลาได้วาดเขียนได้ระบายสี จิตใจจะนิ่ง มีสมาธิกับสิ่งนั้น อันนี้แหละคือการจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำ ทำให้เป็นคนมีสมาธิ และศิลปะนั้นกล่อมเกลาให้เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน จิตใจดีงาม ขอให้เด็กๆทุกคนมีความตั้งใจในการที่จะได้รับความรู้เรื่องศิลปะ และจงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวันนี้ให้มากที่สุด

“ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทั้งมูลนิธิสุชาติวงษ์ทอง สมาคมครูศิลปะ และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่ได้เข้ามาในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เล็กๆแห่งนี้แต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วันนี้ก็หวังว่าเด็กๆทุกคนที่เข้าค่ายศิลปะจะได้รับความรู้ศิลปะในหลากหลายด้านเป็นอย่างมาก”นายเกียรติวิสุทธิ์ กล่าว

สำหรับค่ายวิหารศิลปะครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่วิหารศิลปะ หลังจากเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน มีเด็กจากโรงเรียนต่างๆในเขตบางกอกใหญ่เข้าร่วม 150 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กระดับประถมศึกษา ในจำนวนนี้มีสามเณรด้วย
ดร.สุชาติ วงษ์ทอง ประธานที่ปรึกษามูลนิธิสุชาติวงษ์ทอง ศิลปินสีน้ำชั้นครู เคยได้รับรางวัลต่างๆทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯจัดค่ายศิลปะในต่างจังหวัดพื้นที่ทุรกันดารและขอบชายแดน อย่างเช่นบนดอย ในกทม.ก็เน้นพื้นที่สลัม เนื่องจากจุดประสงค์ของมูลนิธิฯคือ ศิลปะสร้างชุมชน การมาจัดที่วิหารศิลปะครั้งนี้เพราะเพิ่งสร้างเสร็จและเปิดให้เข้าชมได้ไม่นาน จึงอยากให้ชุมชนและคนในพื้นที่ใกล้เคียงได้มาชมงานศิลปะด้วย ซึ่งได้พูดคุยกับผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่แล้ว รับปากว่าจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้เพราะถือเป็นของดีชุมชนและเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ชุมชนมีรายได้จากการขายของให้นักท่องเที่ยว

“การจัดค่ายศิลปะก็เพื่อให้เด็กๆแถวนี้ เข้าใจงานศิลปะ ให้เกิดความรักความสามัคคีและมีจิตใจเอื้อเฟื้อต่อกัน อย่างการไปจัดค่ายศิลปะในต่างจังหวัดก็ทำให้ครูได้องค์ความรู้ไปสนอเด็กได้ด้วย ในขณะที่นักเรียนก็ได้รับประโยชน์ได้เรียนรู้ศิลปะ เกิดความคิดสร้างสรรค์”นายสุชาติ กล่าวและว่า วิหารศิลปะเปิดให้เข้าในวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วแต่ใครจะมีจิตศรัทธาบริจาค เพราะวันธรรมดาตนต้องไปสอนวาดภาพสีน้ำตามมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้จะเปิดสอนวาดรูปสีน้ำในเร็วๆนี้ เพื่อนำมาเป็นค่าเช่าสถานที่ รวมถึงค่าน้ำค่าไฟต่างๆ

ด้านดร.สมบูรณ์ คำมามูล ประธานมูลนิธิสุชาติวงษ์ทอง และนายกสมาคมครูศิลปะ กล่าวว่า มูลนิธิก่อตั้งมาหลายสิบปีแล้ว ได้ทำกิจกรรมต่างๆมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ไปประเทศพม่า และในกรุงเทพมหานครเกือบทุกเขต และยังไปตามโรงเรียนเด็กด้อยโอกาส โรงเรียนนั้นที่สนใจศิลปะ ซึ่งมูลนิธิได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีและบริษัทห้างร้านผู้ให้การสนับสนุนเกี่ยวกับค่ายศิลปะ แม้กระทั่งวิทยากรของสมาคมครูศิลปะก็เป็นจิตอาสาเป็นข้าราชการบำนาญ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะทำด้วยใจ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมาช่วยดูแลเด็กตามความสามารถของแต่ละคน จริงๆเด็กมีความสามารถอยู่แล้วแค่ไปเพิ่มไปเติมไปเสริมความรู้ให้ เพราะศิลปะนั้นไม่ใช่มีการวาดรูปอย่างเดียว มีวิชาหลายๆอย่าง เช่น งานปั้น เทคนิคสีชอล์ค เทคนิคสีน้ำ งานกระดาษ งานภาพพิมพ์ โดยสอนตามความสนใจของเด็กๆ

ด้านนายสุรพงศ์ จันลิ้ม ประธานชุมชมลานโพธิ์ เขตบางกอกใหญ่ การจัดค่ายวิหารศิลปะมีประโยชน์ต่อเด็กๆมาก อยากให้จัดบ่อยๆ ทำให้เด็กและนักเรียนที่อาศัยอยู่ในชุมชนลานโพธิ์ มีความสนใจอยากเรียนวิชาศิลปะเพราะเห็นอาจารย์สุชาติ เป็นตัวอย่างในเรื่องของความสามารถทางศิลปะ ทำให้รู้ว่าใครมีความรู้ทางด้านศิลปะอย่างถ่องแท้ ลึกซึ้ง จริงจังสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมและตัวเองได้ ในส่วนวิหารศิลปะนั้นเคยมาดู บางทีก็พาเพื่อนมาดู หลายคนมาดูต่างตะลึงไม่คิดว่าจะมีงานศิลปะที่สวยงามขนาดนี้ ต่อไปชุมชนจะได้ประโยชน์หากมีการขายของที่ระลึก เพราะมีวิหารศิลปะเป็นแหล่งท่องเที่ยว
จากการสอบถามเด็กๆที่มาเข้าค่ายฯ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์มาก อย่างด.ญ.พิชามญชุ์ จิตไทย อายุ11 ชั้นป.5 โรงเรียนวัดปุรณาวาส กล่าวว่า สาเหตุที่มาเข้าค่ายวิหารศิลปะเพราะอยากมาเปิดประสบการณ์ จะได้นำความรู้ไปแบ่งปันเพื่อนๆ และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ขณะที่สามเณรณัฐพงษ์ เพชราปัญญาทอง อายุ12ปี วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร กล่าวว่า วันนี้เลือกเรียนสีชอล์ค ทำให้ได้ความรู้เรื่องการผสมสี การมาเข้าค่ายครั้งนี้มีประโยชน์เพราะจะช่วยให้ศิลปะของประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองต่อไป