แม้จะเพิ่งจบลงไป แต่สำหรับ นิทรรศการ ‘ศิลปินวัยใส ใส่ใจสุขภาวะ’ ที่เกิดจากความร่วมมือของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับ มสส. และ มรพ. ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการรณรงค์ด้านสุขภาวะ ผ่านการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารแนวคิดได้อย่างทันสมัยและเข้าถึงง่าย ซึ่งช่วยทำให้ประเด็นสำคัญเหล่านี้เป็นที่สนใจมากขึ้นในสังคม
หนึ่งในจุดเด่นของนิทรรศการครั้งนี้ คือ การใช้สื่อสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบทั้งการ์ตูนเชิงสร้างสรรค์ วิดีโอสั้น และอาร์ตทอย (Art toy) ภายในงานจัดแสดงผลงานมุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาวะผ่านมุมมองของเด็กและเยาวชนที่หลากหลาย อาทิ อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนันออนไลน์ และความปลอดภัยของอุบัติเหตุบนท้องถนน
ที่ผ่านมา การรณรงค์เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการพนันออนไลน์ มักอยู่ในรูปแบบโฆษณาหรือสื่อรณรงค์ที่เป็นทางการ แต่ในยุคปัจจุบัน เยาวชนสามารถใช้พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดปัญหาสังคมเหล่านี้ผ่านงานศิลปะและสื่อใหม่ ๆ ได้
น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. ได้กล่าวถึงความสำคัญของการใช้ศิลปะเข้ามาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารว่า การเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีข้อจำกัดในการควบคุม ซึ่งมีทั้งสื่อที่ดีและไม่ดี สิ่งที่สำคัญคือบางทีเราจะเห็นสื่อที่ไม่ดีมากกว่าสื่อดีด้วยซ้ำ เช่น บุหรี่ไฟฟ้าที่ปัจจุบันมีการนำเสนอในลักษณะของเล่น (Toy Pot) ล่อลวงให้เด็กและเยาวชนไปใช้ แม้ว่าจะผิดกฎหมายและอันตรายต่อสุขภาพ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มักจะเชื่อมโยงกับศิลปิน กีฬา ดนตรี และศิลปะ ซึ่งดึงดูดความสนใจของเยาวชนในทางที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ การพนันออนไลน์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถูกหลอกลวงเสมอ
ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ สสส. พยายามพัฒนาวิธีการช่วยให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันสื่อ โดยมุ่งหวังให้เข้าใจเนื้อหาอย่างถูกต้องและสามารถสื่อสารออกไปได้ ซึ่งการมีความมั่นใจในการสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เด็กและเยาวชนสามารถป้องกันตนเองได้ จึงทำให้เกิดเป็นนิทรรศการ ‘ศิลปินวัยใส ใส่ใจสุขภาวะ’ ที่จัดแสดงไปเมื่อวันที่ 13-18 กุมพาพันธ์ที่ผ่านมา
“เราอยากให้โรงเรียนและคุณครูเข้ามาร่วมในโครงการมากขึ้น ซึ่งถือว่า มีบทบาทสำคัญที่สามารถช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชนได้อย่างต่อเนื่อง เราอยากจะขยายเครือข่ายให้มากขึ้น จัดให้เป็นกิจกรรมเสริมที่สามารถขยายไปสู่ทุกโรงเรียนได้ โดยมี สสส. เข้าไปสนับสนุน”
นายอภิวิชร์ เกตุทัต ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) เสริมว่า ที่ผ่านมา มสส. ก็ได้จัดกิจกรรม “เยาวชนสร้างสรรค์การ์ตูน” โดยมุ่งเน้นประเด็นภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ความปลอดภัยทางถนน และการพนันออนไลน์ มีนักเรียน 105 คนจาก 16 โรงเรียนในกรุงเทพฯ เข้าร่วมอบรมและฝึกฝนการวาดการ์ตูนเพื่อสื่อสารข้อมูลสุขภาวะให้เพื่อน ๆ
นอกจากนี้ยังมีการประกวดอาร์ตทอย “นิโคตินมาสเตอร์” ที่ออกแบบคาแรกเตอร์สะท้อนผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลได้นำมาจัดแสดงในนิทรรศการเช่นกัน
ในครั้งนี้ มสส. ขยายการทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) เพื่อเชื่อมประเด็นการทำงานเชิงประเด็นและเทคนิคการสร้างสรรค์และผลิตสื่อศิลปะการ์ตูน โดยนักการ์ตูนนิสต์ชื่อดังทั้ง เซีย ไทยรัฐ (นายศักดา แซ่เอียว) พี่ขวด เดลินิวส์ (นายณรงค์ จรุงธรรมโชติ) ครูอ๋า เก่งคิดเก่งวาด (นายสิทธิพร กุลวโรตตมะ) ฯลฯ เพื่อร่วมงานผ่านกิจกรรมค่าย We Win Wow ชนะมาร-ชนะใจ
พัฒนากระบวนการเรียนรู้วิชาชนะมาร (เหล้า บุหรี่ พนัน) ให้กับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ในพื้นที่การทำงานของเครือข่ายละครเพื่อการเรียนรู้ชนะมารของ มรพ. ใน 5 ภาค คือ ภาคเหนือ - อุตรดิตถ์, ภาคใต้ - สงขลา, ภาคตะวันออก - ชลบุรี, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - โคราช และภาคกลาง - กรุงเทพฯ โดยภูมิรู้ด้านปัจจัยเสี่ยงและเทคนิคการสร้างงานศิลปะ จะเป็นสารตั้งต้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กนักเรียนเติบโตเป็นพลเมืองที่มีสุขภาวะที่ดีของสังคม
โดยกิจกรรมในโครงการประกอบด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการใน 2 สาขาหลัก ได้แก่ การวาดภาพการ์ตูน และการผลิตคลิปวิดีโอสั้นผ่านแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสารให้เยาวชนตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อสุขภาวะของตนเองและสังคม และต่อมาเพื่อขยายผลจากโครงการดังกล่าว จึงได้ร่วมกันจัดนิทรรศการ “ศิลปินวัยใส ใส่ใจสุขภาวะ” ระหว่างวันที่ 13-18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้โรงเรียนและประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมชมกิจกรรม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ 1) นำเสนอและจัดแสดงผลงานศิลปะและการ์ตูนที่สร้างสรรค์โดยเครือข่ายเด็กและเยาวชน เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชน 2) แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนในการพัฒนาทักษะด้านศิลปะ ควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ 3) เปิดพื้นที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเยาวชน ครู ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาวะ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า การพนันออนไลน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“เราคาดหวังว่า การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ ลดพื้นที่เสี่ยงให้เด็กและเยาวชน สำหรับผู้ที่สนใจยังจะได้สัมผัสถึงทักษะและความสามารถของเด็กและเยาวชน ที่ไม่เพียงแต่เกิดประโยชน์กับสังคม แต่จะทำให้เด็กมีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ในขณะที่สังคมก็มีความตระหนักใส่ใจและให้ความสำคัญในการดูแลลูกหลานให้ห่างไกลจากความเสี่ยงทั้งในครอบครัวและชุมชน”
ขณะที่ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์พนัน (มรพ.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงในเด็กเยาวชน พบว่า ทั้งเรื่องเหล้า บุหรี่ไฟฟ้า และพนันออนไลน์ ล้วนเป็นธุรกิจสีเทา ที่พุ่งเป้ามาที่เด็กและเยาวชนเพื่อดึงให้เป็นนักดื่ม นักสูบ นักเล่นหน้าใหม่ ทดแทนกลุ่มลูกค้าเดิมที่อาจได้รับผลกระทบจนสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินไปแล้ว ซึ่งการจัดกิจกรรมค่าย We Win Wow ใน 5 ภาค เมื่อเดือน ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นการฉีดวัคซีนความรู้เรื่องปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ไฟฟ้า และพนันออนไลน์ให้นักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ กว่า 50 แห่ง สอนเทคนิคการทำสื่อรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงในสาขาการวาดการ์ตูน และการผลิตคลิปสั้น TikTok ผลงานทั้งหมดถือเป็นพลังเสียงเล็ก ๆ ที่ส่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองว่า “ขอสังคมที่ปลอดภัย ปลอดปัจจัยเสี่ยง” ให้พวกเขาได้เติบโตอย่างมีอนาคต
นายศักดา แซ่เอียว หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘เซีย ไทยรัฐ’ เล่าว่า เริ่มต้นวาดการ์ตูนตั้งแต่เด็ก และขายผลงานตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากนั้นจึงพัฒนาฝีมือและเข้าสู่วงการการ์ตูนการเมือง ซึ่งทำให้รู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์ถ่ายทอดเรื่องราว เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในประเด็นทางสังคม และจากแนวคิดดังกล่าวจึงเล็งเห็นถึงศักยภาพของศิลปะการ์ตูนในการเป็นสื่อกลางสำหรับการสื่อสารประเด็นทางสังคม จึงได้นำเสนอการรณรงค์ลด ละ เลิก ปัจจัยเสี่ยง ผ่านสื่อการ์ตูนต่อ มสส. เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้มีบทบาทในการสื่อสารและรณรงค์ในประเด็นสุขภาวะ พร้อมสนับสนุนจนเกิดเป็นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการและค่ายพัฒนาทักษะเยาวชนด้านการสื่อสารผ่านศิลปะ
“เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ภาพการการรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงอาจเน้นไปที่ผู้ใหญ่ แต่เราลืมไปว่า สิ่งที่จะเป็นปัญหาและต้องเริ่มต้นก่อนเลยก็คือเด็กและเยาวชน เราต้องเสริมภูมิคุ้มกันและเกราะป้องกันให้เขาตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งผมมองว่า การ์ตูนเหมาะที่สุดแล้ว แล้วมันก็สามารถขยายไปสู่การทำงานศิลปะอื่น ๆ ได้ ที่สำคัญเขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก งานของเขาจะมีบทบาทต่อสังคมในการลด ละ เลิก ปัจจัยเสี่ยง งานในครั้งนี้ทำให้เราเห็นเลยว่า อย่างน้อย ๆ มีกลุ่มเยาวชนอีกมากมายที่พร้อมมาเป็นเครื่องมือสื่อสารให้กับคนในสังคม เพราะตอนนี้โลกก็เข้าสู่ทุนนิยมอย่างเต็มที่ ปัจจัยเสี่ยงจะยิ่งอันตรายมากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องเริ่มต้นสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากให้เขาตระหนักรู้แล้ว เขายังจะเป็นผู้ช่วยสังคมอีกด้วย”
เขาย้ำว่า กิจกรรมในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงผลงานศิลปะของเยาวชน แต่เป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่เข้าถึงผู้คนทุกวัย และหวังว่า มสส. และ มรพ. จะเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่น ๆ ในการนำศิลปะมาเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจและลดปัจจัยเสี่ยงที่แพร่หลายในสังคม
ด้าน นายวรากร วรุณเจริญธรรม TikToker และ Youtuber จากช่อง domon_taiyang ที่มีผู้ติดตามในยูทูบกว่า 1.3 ล้านคน ร่วมแชร์ประสบการณ์เรื่องการทำคอนเทนต์ในปัจจุบันด้วยว่า ช่องของตนเน้นผลิตคอนเทนต์ที่เน้นการเล่าเรื่อง มีความหลากหลายในการสร้างคาแรคเตอร์ โดยการรวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่า ในช่วงแรกของการทำงานตนทำคนเดียว ซึ่งก็มีความยาก เพราะต้องจัดการทุกอย่างเอง แต่เมื่อเติบโตขึ้นก็มีทีมงานเข้ามา สามารถผลิตงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การสร้างสื่อในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก ทุกคนสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ทันที ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีเนื้อหาที่ถูกต้อง และ มีความน่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้ชม โดยเฉพาะการทำคลิปที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ใน 3 วินาทีแรก ซึ่งเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดในการทำให้คนสนใจและติดตามคลิปต่อไป
นอกจากนี้ สามารถใช้ AI ในการช่วยเขียนสคริปต์สำหรับคอนเทนต์ได้ การใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้การผลิตสื่อมีความรวดเร็วและสามารถทำตามกระแสได้อย่างทันเวลา โดยการถ่ายทำคลิปในยุคปัจจุบันต้องมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งในเรื่องของเทคนิคและเนื้อหา
“มีโอกาสได้ดูคลิปของน้อง ๆ ทั้ง 31 คลิป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนวทางที่เล่าเรื่อง มีจุดไคลแมกซ์ที่ดีมาก มีบางช่วงที่น้องพูดถึงภัยของบุหรี่ไฟฟ้า มันสามารถไปแตกยอดต่อยอดได้ ผมชอบมาก ต้องบอกว่า แต่ละคลิปคือผลงานของอนาคตของชาติเลยนะ เพราะสตอรี่ที่น้องเขียนมาดีมาก น่าภูมิใจ”
พร้อมแนะนำในฐานะผู้ผลิตในแบบพี่สอนน้องว่า การทำคอนเทนต์สร้างสรรค์ต้อง คิดก่อนทำ ในช่วงแรกอาจรู้สึกสนุกและท้าทาย โดยเฉพาะการใช้คำหยาบคายหรือคอนเทนต์เชิงลบ แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือผลกระทบในระยะยาวและมองไปถึงการต่อยอดในอนาคตด้วย
ด.ญ. ปลายฟ้า บุญจินะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากโรงเรียนวัดลานบุญ กรุงเทพฯ เจ้าของผลงาน “ตีบ แตก ตัน ตุย” ที่ได้รับรางวัลเล่าว่า ตอนที่ได้รับรางวัลก็รู้สึกดีใจ พ่อแม่ก็รู้สึกดีใจด้วย ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการอบรมเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ามาสื่อสารผ่านตัวการ์ตูน ซึ่งตนต้องการจะสื่อสารว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะว่าควันจากบุหรี่ไฟฟ้าเองก็อันตราย ส่งผลต่อร่างกายและทำลายสมอง และใช้เทคนิคการเลือกสีที่ดึงดูดสายตา โดยเลือกใช้สีทึบในพื้นหลังและสีสว่างในจุดสำคัญของภาพ เพื่อทำให้ภาพเด่นชัดขึ้น และตัดเส้นเพื่อเพิ่มความคมชัด พร้อมส่งกำลังใจให้เพื่อน ๆ ในการพัฒนาฝีมือในการวาดภาพ และเรียนรู้การสร้างสรรค์งานอยู่เสมอ
นับเป็นอีกมิติหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของผู้ใหญ่ในสังคมในการปรับเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาสุขภาวะผ่านมุมมองใหม่ ในขณะเดียวกันก็พร้อมส่งต่อ พลังของโอกาส ที่ยิ่งใหญ่จากรุ่นสู่รุ่น ต่อยอดความฝันให้เด็กและเยาวชนเติบโต ไม่แน่ว่า ในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้า เราอาจได้เห็นศิลปินวัยใสเหล่านี้เติบโตอยู่ในวงการศิลปะและพร้อมที่จะส่งต่อโอกาสเหล่านี้ให้กับรุ่นใหม่เช่นกัน