“นักศึกษาแพทย์ ต้องมีความมุ่งมั่นในการทำงาน เชื่อมั่นในตนเอง อุทิศตน ยอมเสียสละเวลา ใฝ่คว้าหาความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน สังคม และประเทศชาติ ที่สำคัญต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม เพราะเราคนเดียวไม่สามารถที่จะทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความสำเร็จได้ การทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อนำทีมให้ไปสู่จุดหมายได้ครับ”
พลโท ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์นพดล วรอุไร สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปี พ.ศ. 2513 รุ่นที่ 75 สำเร็จหลักสูตรวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา (Diplomate,American Board of Surgery) อดีตคณบดีผู้ก่อตั้งสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารราชวิทยาศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมวิทยาลัยศัลยแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมศัลยแพทย์นานชาติแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปในพระบรมราชูปถัมภ์ และศาสตราจารย์เกียรติคุณวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกฎเกล้า นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาของสมาคมวิทยาลัยศัลยแพทย์นานาชาติ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และที่ปรึกษาของสมาคมศัลยแพทย์ทั่วไปแห่งประเทศไทย และพระบรมราชูปถัมภ์ อีกด้วย
พลโท ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์นพดล วรอุไร แสดงความความรู้สึกหลังจากที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า “ตนเอง มีความปลาบปลื้มและดีใจ มีความรู้สึกเป็นเกียรติเป็นมากครับ เป็นเกียรติกับตัวเอง และครอบครัววงศ์ตระกูล เพราะทราบว่าเป็นรางวัลของสมาคมศิษย์เก่า ของมหาวิทยาลัยมหิดล 35 ปี ที่ผ่านมา มีผู้ได้รับรางวัน 200 กว่าคน ซึ่งน้อยมาก ตนเองเป็น 1 ในรายชื่อที่ได้รับการคัดเลือก จากผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคัดเลือกจากผู้มีคุณธรรมและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ สร้างผลงานดีเด่น เป็นแบบอย่างต่อสังคมและประเทศชาติ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ผมปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด
ฝากถึงคนรุ่นใหม่ในการทำงาน นักศึกษาแพทย์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติด้านสุขภาพของประชาชน อยากจะฝากน้อง ๆ นักศึกษาแพทย์ ในช่วงนี้เป็นช่วงการศึกษาก็ขอให้ศึกษาหาความรู้ให้เต็มที่ มุ่งมั่นและอุทิศตน อุทิศเวลา อุทิศการทำงานให้กับการเรียนการสอบให้เวลากับการเรียนให้มาก หาความรู้ที่ทันสมัยให้มากที่สุด เมื่อจบแล้วจะได้เป็นแพทย์ที่มีคุณภาพ มีความรู้ มีทักษะ มีประสบการณ์ที่ไปช่วยกันดูแลรักษา คนไข้ของประเทศได้
“เราต้องมีความมุ่งมั่นในการทำงาน อยากเห็นผลสำเร็จของงานนั่นๆ จะต้องเป็นงานที่เกิดประโยชน์ กับประชาชน สังคม และประเทศชาติ เมื่อมุ่งมั่นแล้วต้องมีความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าสามารถที่จะทำงานนั่นให้สำเร็จลุล่วงได้ ถ้าเราคิดว่าประสิทธิภาพเรายังไม่เพียงพอก็ใฝ่คว้าหาความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้น และทำงานด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง และต้องอุทิศตนเอง ยอมเสียสละเวลา ไม่หาความสุขส่วนเพื่อทำงานให้เกิดผลสำเร็จขึ้นมาให้ได้ และต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม เพราะเราคนเดียวไม่สามารถที่จะทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความสำเร็จได้ ต้องสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เพื่อนำทีมให้ไปสู่จุดหมายได้ครับ” พลโท ศาสตราจารย์เกียรติคุณ กล่าวทิ้งท้าย