xs
xsm
sm
md
lg

สภาผู้บริโภคจี้ OPPO - Realme เปิดชื่อ "ไอ้โม่ง" เบื้องหลังแอปฯ กู้เงินเถื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สภาผู้บริโภคกดดัน OPPO - Realme เปิดชื่อผู้อยู่เบื้องหลังแอปฯ กู้เงินเถื่อน Fineasy - สินเชื่อความสุข จี้ปรับปรุงระบบปฏิบัติการให้ถอนติดตั้งแอปฯ ได้เองโดยไม่ต้องไปศูนย์บริการ จี้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบ คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ชวนร้องเรียนหากถูกทวงหนี้โหด 
หลังจากสภาผู้บริโภคได้แถลงข่าวเรียกร้องให้ OPPO และ Realme ชี้แจงกรณีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Fineasy และ สินเชื่อความสุข ซึ่งเป็นแอปฯ กู้เงินเถื่อน พร้อมเร่งแก้ปัญหาผู้บริโภคภายใน 3 วัน และให้ 5 หน่วยงานรัฐตรวจสอบข้อเท็จจริง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้บริษัท OPPO และ Realme เร่งเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแอปฯ กู้เงินเถื่อน “Fineasy” และ “สินเชื่อความสุข” ที่แอบติดตั้งมากับสมาร์ทโฟน โดยให้เปิดเผยว่าใครเป็นผู้พัฒนาแอปฯ และใครเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเงินกู้ดังกล่าวด้วยพบข้อมูลจากผู้บริโภคที่ร้องเรียนเข้ามาที่สภาผู้บริโภคว่า มีการปล่อยกู้เงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและมีการติดตามทวงถามหนี้โหดที่ผิดกฎหมาย และยังพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากไม่สามารถถอนการติดตั้งแอปฯ เหล่านี้ได้เอง เนื่องจากติดตั้งมาในระบบ (System App) ส่งผลให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและอาจนำไปสู่การถูกคุกคามทางการเงิน

สภาผู้บริโภคเสนอให้ทั้ง 2 บริษัทปรับปรุงระบบปฏิบัติการหรืออัปเดตแอปฯ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถถอนการติดตั้งได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเดินทางไปศูนย์บริการ เนื่องจากขณะนี้พบเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคว่าการปลดล็อกแอปฯ ทำได้เฉพาะที่ศูนย์บริการขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างภาระให้ผู้บริโภค หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ ควรจ่ายเงินเยียวยาค่าเดินทางค่าเสียเวลาให้ผู้บริโภค 2,000 บาทต่อรายเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาที่ศูนย์บริการ

“แม้ทั้งสองบริษัทจะออกแถลงการณ์ว่าจะแก้ไขปัญหาโดยการลบแอปฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม สภาผู้บริโภคจึงตั้งคำถามว่า การที่ OPPO และ Realme ไม่เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดนั้น อาจเป็นเพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือส่วนแบ่งรายได้ร่วมกับผู้พัฒนาแอปฯ กู้เงินเถื่อนหรือไม่ หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรแสดงความโปร่งใสด้วยการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน” นายอิฐบูรณ์ กล่าว


นายอิฐบูรณ์กล่าวว่า สำหรับผู้บริโภคที่ตกเป็นเหยื่อของแอปกู้เงินเถื่อน “Fineasy” และ “สินเชื่อความสุข” หรือเป็นหนี้จากแอปฯ เหล่านี้ สภาผู้บริโภคแนะนำให้ชำระเฉพาะเงินต้นเท่านั้น หากถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือพบว่ามีพฤติกรรมทวงหนี้ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ สามารถแจ้งร้องเรียนมาที่สภาผู้บริโภคเพื่อขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือทางกฎหมายได้ โดยติดต่อสายด่วน 1502 หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ tcc.or.th

นายอิฐบูรณ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่จะมีการประชุมร่วมกันในช่วงบ่ายของวันที่ 13 มกราคม 2568 เร่งกำหนดมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค และดำเนินการตรวจสอบบริษัท OPPO - Realme และลงโทษตามกฎหมาย รวมถึงผู้พัฒนาแอปฯ โดยเฉพาะ กสทช. ควรมีบทบาทที่ชัดเจนในการเข้ามากำกับดูแลซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคในลักษณะเดียวกับกรณีซิมบ็อกซ์ (Sim Box) เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่สร้างความเสียหายให้ผู้บริโภค ไม่ใช่กำกับดูแลเพียงแค่เรื่องสุขอนามัยด้านการใช้บริการโทรคมนาคมเท่านั้น

ตามอำนาจหน้าที่ในประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม พ.ศ.2566 กำหนดชัดเจนว่าผู้รับใบอนุญาตต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลและความปลอดภัยของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสภาผู้บริโภคจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อไป หากยังไม่ได้รับการตอบสนองจากบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊กของ สภาองค์กรของผู้บริโภค โพสต์สอบถามว่า นอกจาก OPPO กับ Realme แล้ว มีใครใช้โทรศัพท์ค่ายอื่นแล้วเจอว่าถูกติดตั้งแอปฯ เงินกู้เถื่อนมาโดยที่เราไม่ยินยอมไหม? สภาผู้บริโภคเพิ่งได้ข้อมูลจากผู้บริโภคที่ใช้ VIVO X 100 ในเครื่องถูกติดตั้งแอปฯ โดยไม่ยินยอมด้วย

แต่จากการสอบถามทางสภาผู้บริโภค ได้ให้คำตอบว่า ตอนนี้มีเพียง OPPO กับ Realme ส่วน Vivo มีผู้บริโภคส่งข้อมูลมาให้กับสภาผู้บริโภคว่ามีแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ยินยอมอยู่ในเครื่อง ขณะนี้สภาผู้บริโภคกำลังประสานงานกับทีมดูแลระบบของ VIVO ซึ่งทีมงานของ VIVO ระบุว่าไม่มีแอปพลิเคชันกู้เงินเถื่อนดังกล่าวติดมา แต่แอปฯ อาจติดมาจากการย้ายข้อมูลของยี่ห้ออื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น