“ผมอาจจะเป็นตะเกียงเล็กๆ พี่คนนี้อาจจะเป็นองค์กรใหญ่ จุดกันหลายๆคน เริ่มที่แสงสว่างเล็กๆน้อยๆก็เป็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา” คำพูดของนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ฑูตสื่อวิญญาณ นับเป็นพลังอันสำคัญที่ทำให้เห็นถึงเป้าหมายในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในฐานะอุบาสกแห่งธรรมใน “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย-เนปาล ครั้งที่ 11” โดยครั้งนี้เขามาในฐานะประธานฝ่ายฆราวาสของโครงการจาริก
ธรรมฯ
"โครงการจาริกธรรมฯในปีนี้มีความคืบหน้าตรงที่หลายส่วนหลายองค์กรซึ่งต้องการจะเกื้อกูล หรือ ขอมีส่วนร่วมในการปลุกเสกพระเป็นๆให้เป็นพระร่วมกันและเดินหน้าดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา สามารถมาพูดคุยกับทางโครงการจาริกธรรมฯ หรือ ทางผมได้ ซึ่งผมและทีมงานจะมีการเดินทางไปจังหวัดสุพรรณบุรีในเดือนมกราคม พ.ศ.2568 เพื่อมอบเต้นท์ให้กับคณะสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมฯ
นายเสกสันน์ยังให้มุมมองการเดินหน้าจุดแสงแห่งไตรสิกขาในโครงการจาริกธรรมฯว่า
"การสร้างพระที่ดี และ พัฒนาในเรื่องของพระสงฆ์ ให้พระสงฆ์ศึกษาไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) เป็นสิ่งที่งดงามมาก ซึ่งผมก็เป็นกำลังส่วนหนึ่งในการบอกเรื่องราวดีๆเหล่านี้กับบุคคลต่างๆ โดยพระสงฆ์ที่ร่วมในโครงการจาริกธรรมฯ จนสามารถไปเดินถึงประเทศอินเดียและเนปาล ก็ไม่ได้ไปบวชเล่นๆ แต่ไปเดินจริงๆ กางเต้นท์กันจริงๆ มีกลุ่มแม่ชีทำอาการอาหารถวาย และสมบุกสมบันกันจริงๆ" นายเสกสันต์เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง
ส่วนประเด็นที่ปัจจุบันมีพระสงฆ์เพียงส่วนน้อยนิดที่ตกเป็นข่าวไม่ดีทางสื่อ หรือมีหลายกลุ่มที่ออกมาพูดมุมที่ไม่ดีของพระสงฆ์ ในมุมมองดังกล่าว นายเสกสันน์มองว่า บางประเด็นทำให้เกิดการถกเถียงกันในสังคม ซึ่งในส่วนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของอุบาสก อุบาสิกา ในการสนับสนุนเกื้อกูลพระพุทธศาสนา
"ส่วนจะทำยังไงให้เกิดการเจริญ พัฒนาฝึกฝนศึกษาเรียนรู้ต่อไปจะได้ผลิตเนื้อนาบุญออกมาจริงๆและกราบไหว้อย่างสนิทใจ เราในฐานะที่เป็นอุบาสกอุบาสิกาก็เป็นส่วนสำคัญมากๆที่จะทำให้ศาสนาดำรงต่อไปได้ และการมีส่วนร่วมในโครงการนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้มีพระสุปฏิปันโน แล้วก็จะดำเนินต่อไปได้ในทางพระพุทธศาสนา คือมองว่า เรามาช่วยกันจุดแสงไฟดีกว่า เราเป็นตะเกียงเล็กๆน้อยๆดวงไฟเล็กๆน้อยๆ หรือเทียนแต่ละเล่ม ผมคนเดียวอาจจะไม่พอต้องมีหลายๆคน ผมอาจจะเป็นตะเกียงเล็กๆ พี่คนนี้อาจจะเป็นองค์กรใหญ่ จุดกันหลายๆคน เริ่มที่แสงสว่างเล็กๆน้อยๆก็เป็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา ส่องทางให้ผู้คนไปในทางที่ถูกต้องดีงามได้ แสงสว่างมากขึ้น คนจะได้เห็นว่า ไม่ว่าจะมีเรื่องราวไม่ดีตรงไหนแต่ก็ยังมีอีกมุม ที่มีกลุ่มคนพยายามทำอะไรที่ดี แล้วก็เจริญงอกงาม ก็ยังมี ซึ่งผมก็จะทำให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้มากขึ้น" นายเสกสันน์กล่าวทิ้งท้ายให้แง่คิดอย่างเป็นกันเอง
สำหรับ “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย ครั้งที่ ๑๑” ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2568 พระสงฆ์ทั้งไทยและลาวที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ จะเดินจากจังหวัดสุพรรณบุรีเข้ามาที่จังหวัดปทุมธานีเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปจาริกธรรมธรรมยังประเทศอินเดียและเนปาล
ส่วนผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเกื้อกูลพระพุทธศาสนา สามารถติดตามข่าวสารของ “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย-เนปาล ครั้งที่11” ได้ทางโซเชียลมีเดียทั้งในเพจ “จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา โดยวัดดอยเทพนิมิต จังหวัดเชียงราย” และเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี
พลังของ” นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล” หรือ หมอบี ฑูตสื่อวิญญาณ จึงเป็นตัวอย่างให้อุบาสก และ อุบาสิกา ในการร่วมแรงร่วมใจกันมีส่วนร่วมในพิธีปลุกเสกพระเป็นๆให้เป็นพระ ซึ่งการทำหน้าที่นี้เปรียบเสมือนดวงประทีปแต่ละดวงมารวมกันเป็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ เป็นพลังที่มีคุณค่าอันงดงามแห่งพระพุทธศาสนา
เพราะฉะนั้น การทำหน้าที่ของอุบาสกและอุบาสิกาที่มี “หมอบี ฑูตสื่อวิญญาณ” เป็นตัวอย่างนั้น ทำให้เกิดการทวนมิติใหม่ในสังคมไทยบ้านเราที่เกิดความไม่ไว้ใจกันระหว่างพระสงฆ์ที่มีต่อญาติโยม และระหว่างญาติโยมที่มีต่อพระสงฆ์ รวมทั้งการร่วมแรงร่วมใจกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนายังทำให้เกิดสภาวะธรรมในลักษณะ “บุญก็ได้ ใจก็สบาย” ที่เรียกว่า บารมีธรรม