xs
xsm
sm
md
lg

ลือสะพัดโครงการเช่าแท็บเล็ตของ กทม. ติงคุณสมบัติเครื่องที่เช่าไม่ตอบสนองยุคสมัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลือสะพัดโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียนกรุงเทพมหานคร กำหนดคุณสมบัติของเครื่องที่เช่าอาจไม่ตอบสนองยุคสมัย

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่าตามประกาศของกรุงเทพมหานคร เรื่องเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ประกาศลงวันที่ไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 โดยมีผู้ลงนามในสำนักการศึกษาลงนามแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในโครงการลำดับที่ 8 ในชื่อ “โครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียนกรุงเทพมหานครในยุคดิจิตอล ตามรายการาค่าใช้จ่ายการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียนกรุงเทพมหานครในยุคดิจิตอล” ในวงเงินงบประมาณ 481,283,060 บาท โดยมีการคาดการณ์ว่าจะประกาศจัดซื้อจัดจ้างได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นั้นกำลังเป็นที่สนใจว่าโครงการนี้มีข้อสงสัยในเรื่องคุณสมบัติของเครื่องส่อไปทางไม่เหมาะสมกับสังคมยุคปัจจุบันนี้

“การที่โครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาตามประกาศครั้งนี้ เหมือนกับว่ากำหนดให้ใช้ระบบปฎิบัติการณ์ (OS) เปิดทางเฉพาะบางบริษัท เพราะก่อนหน้านี้เหมือนกับมีการปูทางอยู่ในโปรเจกต์โครงการห้องเรียนอัจฉริยะล่วงหน้าไปแล้วพันกว่าเครื่อง โดยมีการสร้างเรื่องราวด้วยงานวิจัยรองรับ ว่าเหมาะกับการเรียนการสอน นักเรียนจะได้ไม่เสียสมาธิไปเล่นอย่างอื่น สุดท้ายกลายเป็นตีกรอบจำกัดการใช้งานเสียเอง จุดแข็งที่อ้างคือจุดอ่อน ขัดแย้งกับนโยบายการศึกษาของผู้ว่า “การเรียนดิจิตอล ที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์แบบไร้ขอบเขต” เปรียบเสมือนจ่ายเงินซื้อของหนึ่งร้อยซื้อ แต่ใช้จริงแค่สิบบาท”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าการอ้างผลการวิจัยสวนทางงานวิจัยสากล เพราะข้อมูลอ้างอิงจากแหล่งข่าวสากลต่างระบุว่า ระบบปฎิบัติการ (OS) ที่นิยมใช้เพื่อการศึกษาคือ ระบบ Windows และ iOS ของ Apple ครองตลาดกว่า 90% โดยในประเทศที่ได้รับการยอมรับในเรื่องการศึกษาในระดับนานาชาติอย่างสิงคโปร์หรือญี่ปุ่นล้วนใช้ระบบ Windows และ iOS ทั้งสิ้น

จากการสืบค้นเอกสารพบว่าเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาได้ขึ้นประกาศโครงการประกวดราคาซื้ออุปกรณ์ห้องเรียนดิจิทัล ตามรายการค่าใช้จ่ายในการพัฒนาห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ กิจกรรมที่ 1 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลางของงานซื้อ ในการประกวดราคาครั้งนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 27,457,000 บาท โดยใช้หลักเกณฑ์ด้านราคา ซึ่งหมายถึงผู้เสนอราคาต่ำสุดในแต่ละรายการมีโอกาสเป็นผู้ชนะในรายการนั้นๆ โดยยื่น อี-บิดดิ้ง ไปเมื่อเวลา 9.00 – 12.00 น.วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ก่อนเย็นวันนั้นจะมีประกาศว่ามีผู้ยื่นทั้งสิ้น 6 ราย โดยมีการแจ้งว่าแต่ละรายการมีผู้เสนอราคาต่ำสุดดังนี้ 1.โทรทัศน์ แอลอีดี (LED TV) แบบ Smart TV ขนาด 65 นิ้ว พร้อมขาแขวน จำนวน 246 เครื่อง ราคาต่ำสุดที่เสนอคือ 5,350,000 บาท 2.เครื่องเสียง จำนวน 333 เครื่อง ราคาต่ำสุด 1,150,000 บาท และ 3.เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา จำนวน 1,630 เครื่อง ราคาต่ำสุด 17,092,180 บาท แต่จนวันนี้โครงการนี้ยังไม่มีประกาศผู้ชนะผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐแต่อย่างใด แม้ว่าจะผ่านมากว่าเดือนครึ่งแล้วก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น