“หมอธีระวัฒน์” เปิดรายงานกรรมาธิการ ในสภาผู้แทน สหรัฐฯ ชี้โควิด-19 มีแนวโน้มมาจากห้องทดลอง รัฐบาลอเมริกันอนุมัติฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วน ไม่ฟังคำเตือนถึงอันตราย คำสั่งฉีดวัคซีนไม่มีหลักวิทยาศาสตร์สนับสนุน ละเลยภูมิคุ้มกันที่เกิดตามธรรมชาติ เพื่อบังคับฉีดวัคซีน ไม่แจ้งข้อมูลที่ถูกต้องต่อสาธารณชน ล้มเหลวในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้(3 ธ.ค.) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เกี่ยวกับ" target="_blank">https://oversight.house.gov/wp-content/uploads/2024/12/12.04.2024-SSCP-FINAL-REPORT.pd" target="_blank">fรายงานของคณะอนุกรรมาธิการว่าด้วยการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ในคณะกรรมาธิการกำกับดูแลและความรับผิดชอบ(Committee On Oversight and Accountability) สภา่ผู้แทนรษฎร สหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2024 แต่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2024 มีรายละเอียด ดังนี้
รายงานฉบับสมบูรณ์
ของคณะอนุกรรมการรัฐสภาสหรัฐ 525 หน้า
วันที่ 4 ธันวาคม 2024
และส่งต่อให้รัฐบาลใหม่สหรัฐจัดการกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบ
https://oversight.house.gov/report/after-action-review-of-the-covid-19-pandemic-the-lessons-learned-and-a-path-forward/
มีหลายประเด็น
ตัวอย่างเช่น
• ที่มาของ COVID-19
เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการการวิจัยการเพิ่มฟังก์ชันที่เป็นอันตรายในประเทศจีน มีแนวโน้มสูงสุดที่ทำให้เกิดการระบาดของ COVID-19
บริษัท EcoHealth Alliance Inc. ใช้เงินภาษีของประชาชนสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการวิจัยการเพิ่มฟังก์ชันในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
• อนุมัติวัคซีน COVID-19 อย่างเร่งด่วน:
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เร่งอนุมัติวัคซีน COVID-19 เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาตามคำสั่งโดยพลการของรัฐบาลไบเดน นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ 2 คนของ FDA เตือนเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับอันตรายจากการเร่งกระบวนการอนุมัติวัคซีนและความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ถูกเพิกเฉย และไม่กี่วันต่อมา รัฐบาลไบเดนก็บังคับให้ฉีดวัคซีน
• คำสั่งฉีดวัคซีน:
คำสั่งฉีดวัคซีนไม่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์และก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์ รัฐบาลไบเดนบังคับให้ชาวอเมริกันที่มีสุขภาพดี ปฏิบัติตามคำสั่งฉีดวัคซีน COVID-19 ซึ่งเหยียบย่ำเสรีภาพส่วนบุคคล ทำลายความพร้อมของกองทัพ และละเลยเสรีภาพทางการแพทย์
• ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ: เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมมือกันพยายามประสานงาน กันที่จะละเลยด้อยค่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ซึ่งได้รับมาจากการติดเชื้อ COVID-19 ก่อนหน้านี้ ขณะพัฒนาแนวทางและ ส่งผลมายังคำสั่งบังคับให้ฉีดวัคซีน
• ระบบรายงานการบาดเจ็บจากวัคซีน:
ระบบรายงานการบาดเจ็บ ผลกระทบ จากวัคซีนสร้างความสับสน และ ไม่สามารถแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องแก่สาธารณชนชาวอเมริกันเกี่ยวกับการบาดเจ็บจากวัคซีน และทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความปลอดภัยของวัคซีนลดลงระหว่างการระบาดของ COVID-19
• การชดเชยการบาดเจ็บจากวัคซีน:
รัฐบาลล้มเหลวในการพิจารณาการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีน COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพ ยุติธรรม และโปร่งใส
* การขัดขวางจาก HHS:
HHS ของรัฐบาล Biden ได้ดำเนินการรณรงค์มาหลายปี ขัดขวาง กระบวนการสืบสวนก่อให้เกิด ความล่าช้า ความสับสน และไม่ตอบสนอง เพื่อพยายามขัดขวางการสืบสวนของคณะอนุกรรมการพิเศษ และซ่อนหลักฐานที่อาจทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงต้องรับผิดหรืออับอาย ดูเหมือนว่า HHS จะจงใจจัดสรรทรัพยากรไม่เพียงพอให้กับหน่วยงานที่ตอบสนองต่อคำขอกำกับดูแลของฝ่ายนิติบัญญัติ
* การขัดขวาง ของ ECOHEALTH:
ประธาน EcoHealth ดร. Peter Daszak ขัดขวางการสืบสวนของคณะอนุกรรมการพิเศษ ที่จะต้องให้ข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้จากสาธารณะ โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ของเขา จำกัด ขอบเขต การให้ข้อมูล และถ่วงเวลาในการจัดการ และมีการแก้ไขเอกสารก่อนเผยแพร่ต่อสาธารณะ นอกจากนี้ ดร. Daszak ยังให้การเท็จต่อรัฐสภา
DR. เดวิด โมเรนส์: ที่ปรึกษาอาวุโสของ ดร.เฟาซี
ดร. เดวิด โมเรนส์ จงใจขัดขวางการสืบสวนของคณะอนุกรรมการพิเศษ โกหกรัฐสภาหลายครั้ง ลบข้อมูล COVID-19 ของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย และไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับกระบวนการให้ทุนของ NIH กับดร. ปีเตอร์ ดาซัค ประธาน EcoHealth
การขัดขวางนิวยอร์ก:
สภาบริหารของนิวยอร์ก ซึ่งปัจจุบันนำโดยผู้ว่าการเคธี่ โฮชุล ได้แก้ไขการเสนอการอ้างสิทธิ์ที่ไม่ชอบธรรมมากมาย และกักเก็บเอกสารหลายพันฉบับโดยไม่มีฐานทางกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อขัดขวางการสืบสวนของคณะอนุกรรมการพิเศษเกี่ยวกับความล้มเหลวของอดีตผู้ว่าการคูโอโมในยุคการระบาดใหญ่
นพ.ธีระวัฒน์ ยังโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
ข้อมูล บิดเบือนเกี่ยวกับ COVID-19:
หน่วยงานองค์กรรัฐทางสาธารณสุข ทำการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง misinformation เสียเองและยังสร้างข้อความที่ขัดแย้ง มีการปฏิเสธทันทีทันใดต่อข้อมูลที่ออกมา (ขยายความ ตัวอย่าง fact checker สำนักต่างๆ และในประเทศไทยเช่น สื่อ และรายการต่างๆ ชัวร์ก่อน..เป็นต้น)
ทั้งนี้ โดยไม่มีความโปร่งใส
ในตัวอย่างที่ร้ายแรงที่สุดการแคมเปญข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ปล่อยออกแพร่หลาย ป้ายสี เช่น เกี่ยวกับการใช้ยาอื่นที่รัฐบาลไม่ได้กำหนด ยาที่ เป็น repurpose (ขยายความ คือยาที่หมดสิทธิบัตรและใช้สำหรับโรคหนึ่ง แต่พิสูจน์ว่าใช้ได้ได้ผลกับโควิด ถูกต่อต้านโดยรัฐบาลอย่างรุนแรง ไม่ให้ใช้ ไม่มีข้อมูล มีอันตราย ให้ใช้ยาของที่รับรองจากองค์การอนามัยโลก จาก อย จาก CDC เท่านั้น) และปิดบังทฤษฎีการรั่วของไวร้สของห้องแล็บ ข้อมูลที่เปิดเผยกลับถูกรัฐบาลกลางกล่าวร้ายอย่างไม่ยุติธรรม
• รัฐบาลไบเดนยังใช้วิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ - รวมถึงการกดดันบริษัทโซเชียลมีเดียให้เซ็นเซอร์เนื้อหา COVID-19 บางส่วน และจัดการเปลี่ยนให้กลายเป็นข้อมูลสมคบคิดข้อมูลเท็จ
บางส่วนของรายงานของรัฐสภาสหรัฐเกี่ยวกับ โควิด-19 วันที่ 4 ธันวาคม 2024 และรอการจัดการจากรัฐบาลใหม่