เรียนรู้ศิลปะ แค่ในชั้นเรียนคงไม่พอ...โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายประถม นำนักเรียนในโครงการ Art Learning ระดับชั้น ป.5 ทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ล่าสุด ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ ชมนิทรรศการ “200 Years Journey Through Thai Modern Art History” นิทรรศการแรกของการเปิด “ท่าพิพิธภัณฑ์”
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายประถม นำนักเรียนในโครงการ Art Learning ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ไปทัศนศึกษา ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งใหม่ล่าสุด ชมนิทรรศการ “200 Years Journey Through Thai Modern Art History”
ด้วยโครงการพัฒนาศักยภาพทางด้านศิลปะ (Art Learning) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนความสามารถและประสบการณ์ทางด้านศิลปะ โดยนอกจากการทำงานศิลปะในห้องเรียนแล้ว นักเรียนควรได้ชมงานศิลปะที่หอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์เพื่อเปิดโลกกว้างทางศิลปะ และเรียนรู้เรื่องมารยาทในการเยี่ยมชมงานศิลปะ ในครั้งนี้โครงการจะนำนักเรียนไปทัศนศึกษาชมงานศิลปะ ณ ท่าพิพิธภัณฑ์ Museum Pier ชมนิทรรศการ “200 Years Journey Through Thai Modern Art History”
โดยอาจารย์ปกรณ์ กล่อมเกลี้ยง ผู้เชี่ยวชาญและนักบรรยายทางศิลปะได้ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรนำชมในครั้งนี้ด้วย ภายในกิจกรรมนั้น อาจารย์ปกรณ์ พานักเรียนเริ่มต้นด้วยผลงานของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี บิดาและผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร , ศิลปากร : กรม มหาวิทยาลัย และการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ, ศิลปะแนวเหมือนจริงหรือศิลปะสัจนิยม และ ความเป็นไทยกับความเป็นสมัยใหม่
โดยที่ชั้นนี้รวบรวมเรื่องราวของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี และจุดเริ่มต้นของศิลปะแนวเหมือนจริงและศิลปะแนวสมัยใหม่ โดยชั้นนี้มีทั้งผลงานภาพวาดและประติมากรรม นอกจากผลงานของอาจารย์ศิลป พีระศรีแล้ว ยังมีผลงานของศิลปินไทยระดับตำนาน เช่นอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี, อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต เป็นต้น
จากนั้นผู้เชี่ยวชาญและนักบรรยายทางศิลปะ นำนักเรียนในโครงการ Art Learning ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดซึ่งเป็นจุดไฮไลท์สำหรับคนที่ชอบศิลปะแนวร่วมสมัยและนามธรรม ชั้นนี้จะมี 2 โซนด้วยกัน คือ “ศิลปะไทยสมัยใหม่และหลังสมัยใหม่” และ “ศิลปะร่วมสมัย” ชั้นนี้จะมีผลงานตั้งแต่ศิลปะแนวนามธรรม ศิลปะแนวภาพพิมพ์ ไปจนถึง Art Toy ชื่อดังอย่างหุ่น Cry Baby ของคุณ Molly
อาจารย์ปกรณ์ กล่อมเกลี้ยง นำนักเรียนชั้นประถามศึกษาปีที่ 5 กลับมาที่ชั้นแรก ซึ่งจะแบ่งออกเป็น เคลื่อนสู่ปฐมศิลปะสมัยใหม่ในประเทศไทย และ อิทธิพลตะวันตกต่องานศิลปะในราชสำนักสยาม โดยที่ชั้นนี้จะพาย้อนเวลากลับไปในยุคที่ศิลปะไทยเริ่มได้รับอิทธิพลจากตะวันตก ทำการจัดแสดงจิตรกรรมและประติมากรรมไทยยุคต้นและยุคกลางรัตนโกสินทร์ และภาพวาดบุคคลซึ่งเป็นที่นิยมในราชสำนักไทยสมัยนั้น เป็นชั้นที่บอกเล่าความเปลี่ยนแปลงศิลปะไทยได้อย่างลึกซึ้งเป็นอย่างดีเลย
สำหรับนิทรรศการแรกของการเปิด ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) คือ นิทรรศการ “200 Years Journal through Thai Modern Art History” จัดแสดงชิ้นงานมากกว่า 100 ชิ้น จากคลังสะสมของ กรกมล และ พิริยะ วัชจิตพันธ์ ซึ่งได้นำชิ้นงานที่เก็บสะสมไว้ส่วนตัวมาเปิดให้สาธารณชน โดยนำเสนอประวัติศาสตร์ศิลปะสมัยใหม่ของไทยให้เกิดเป็นภาพรวมชัดเจนในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ ไล่เรียงมาตั้งแต่ยุครุ่งอรุณของศิลปะสมัยใหม่ไทย หรือย้อนกลับไปเมื่อราว 200 ปีที่แล้ว ที่ขรัวอินโข่ง ศิลปินชื่อดังในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังผสมผสานกับอิทธิพลจากตะวันตก ต่อด้วยยุคที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินว่าจ้างศิลปินตะวันตกมาสร้างสรรค์ผลงานประดับปราสาทราชวัง ต่อมายังยุคศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี ผู้วางรากฐานให้กับวงการศิลปะ จวบจนปัจจุบันที่ศิลปินไทยเป็นปัจเจก สร้างสรรค์ผลงานศิลปะหลากหลายสไตล์ โดยมีพื้นที่จัดแสดงทั้งหมด จำนวน 3 ชั้น แบ่งเป็น 8 โซน โดยใช้สีผนังที่แตกต่างกันในแต่ละโซน
ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) อยู่ในโครงการท่าช้าง วังหลวง ใกล้กับวัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) ใกล้ท่ามหาราชและท่าช้าง โดย นิทรรศการ “200 Years Journal through Thai Modern Art History” สามารถเข้าชม ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2568 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิทรรศการหมุนเวียนต่อไป เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.