แวดวงการศึกษายุคต่อจากนี้ควรเป็นอย่างไร? อะไรคือ “มิติใหม่ทางการศึกษา” ศ.ดร.สื่อจิตต์ เพ็ชร์ประสาน ชวนมองเทรนด์การศึกษาในโลกยุคใหม่ พร้อมไกด์ไลน์ในการศึกษาต่อ ป.โท-เอก
Manager Online มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “ศ.ดร.สื่อจิตต์ เพ็ชร์ประสาน” คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งนอกจากจะให้มุมมองชวนคิดเกี่ยวกับเทรนด์การศึกษาที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้รวดเร็วทันยุคทันสมัยแล้ว ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังตั้งต้นจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ซึ่งเป็นข้อมูลที่อาจจะช่วยให้คุณตัดสินใจที่จะก้าวไปสู่การเป็น “มหาบัณฑิต” และ “ดุษฎีบัณฑิต” ที่มีคุณภาพได้อย่างมั่นใจ
มิติใหม่ทางการศึกษา
ต้อง ‘ทันสมัย’ อยู่เสมอ
เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สถาบันการศึกษาในยุคปัจจุบันและต่อไปในอนาคต ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ซึ่งในมุมมองของ ศ.ดร. สื่อจิตต์ เห็นว่า จากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของกระแสโลก ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทักษะความรู้ที่จำเป็นตามไปด้วย วิชาความรู้ที่สอนกันในวันนี้ อาจจะตกยุคตกสมัยภายในระยะเวลาไม่นานก็เป็นได้ ขณะที่ Globalization หรือโลกไร้พรมแดน ก็ทำให้องค์ความรู้ใหม่ ๆ มีการผ่องถ่ายสู่กันในระดับสากลอย่างสะดวกและรวดเร็ว นั่นยังไม่นับรวมถึงความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีอย่างเอไอ (AI : Artificial Intelligent) ที่เข้ามา Disrupt วงการต่าง ๆ รวมทั้งวงการการศึกษา
“การเรียนรู้ในปัจจุบันจึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงอยู่เสมอ หลักสูตรการศึกษาต้องมีความทันสมัย สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิตของเรา มุ่งเน้นให้นักศึกษาระดับบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตมี Mindset ในระดับของ Global Mindset ที่ทำให้สามารถเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับตัวให้สอดรับไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และตระหนักรู้ว่า ตนเองรู้อะไร ไม่รู้อะไร และถ้าไม่รู้ จะสามารถหาความรู้เหล่านี้ได้จากที่ไหน”
ทั้งนี้ มหาวิทยารังสิตได้สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ต่าง ๆ มากมายไว้รองรับ โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ อีกทั้งมีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่ว่านักศึกษาจะกำลังเรียนอยู่หรือจบไปแล้ว ก็มีแพลตฟอร์มให้นักศึกษาสามารถใช้ในการส่งเสริมองค์ความรู้ต่าง ๆ พัฒนาต่อยอดต่อไปได้ไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นการ Up-Skill หรือ Re-Skill
“และอย่างที่ทุกท่านทราบครับว่า เอไอได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคต โดยหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งระดับปริญญาโท-เอก ของมหาวิทยาลัยรังสิต ก็มีการเรียนการสอนในวิชาเอไอ เช่น การนำเอไอไปประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจ เชิงวิศวกรรม อีกทั้งเรายังมุ่งเน้นการใช้เอไอในเชิงสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ เป็นไปตามหลักจริยธรรมและคุณธรรมด้วยครับ”
เจาะจุดแข็ง ปริญญาโท-เอก ม.รังสิต
หลักสูตรหลากหลาย การันตีคุณภาพ
พร้อมทักษะจำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21
ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษามากมายหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดการแข่งขันสูง แต่ละแห่งจึงต้องมีจุดเด่นและจุดแข็งเพื่อดึงดูดความสนใจให้คนเข้าไปศึกษา ซึ่งถ้าจะกล่าวถึงบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต หลายคนคงรู้ว่าที่นี่มีความโดดเด่นในหลายด้าน
ทั้งนี้ จากการให้ข้อมูลโดย ศ.ดร.สื่อจิตต์ ระบุถึงจุดแข็งประการแรกว่าหลักสูตรปริญญาโท-เอก มหาวิทยาลัยรังสิต มี Diversity หรือความหลากหลายสูงมาก เนื่องจากมีหลักสูตรมากกว่า 50 หลักสูตรไว้รองรับ และเชื่อมั่นได้ว่า ผู้เรียนจะสามารถหาหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือ ทุกหลักสูตรที่ใช้สอนในมหาวิทยาลัยรังสิต ผ่านการอนุมัติและได้รับการประเมินอย่างเข้มข้นทุกปีในด้านคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการ ทั้งการประเมินจากภายในและจากภายนอก
จุดแข็งประการต่อมา คือ Flexibility หรือความยืดหยุ่น หมายความว่า แต่ละหลักสูตร มีตารางเรียนที่หลากหลาย ทั้งในช่วงเวลาเย็นของวันธรรมดา และหลายหลักสูตรก็ทำการเรียนการสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งมีหลักสูตรที่เรียนทางไกลโดยผ่านออนไลน์ ช่วยให้นักศึกษาสามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามความสะดวกสอดคล้องกับเวลาของตนเอง
และที่สำคัญ มหาวิทยาลัยรังสิต ยังเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับหนึ่งของประเทศ ตาม Raking ต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐาน เช่น EduRank และ Webometrics นอกจากนั้น มหาวิทยาลัยรังสิตยังมีจำนวนศาสตราจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ มากเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งพร้อมจะมอบองค์ความรู้ให้กับผู้ศึกษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ตอนนี้ มหาวิทยาลัยรังสิตของเรากำลังขยายเครือข่ายไปยังต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถไปเรียนที่ต่างประเทศก็ได้ ฝึกงานที่ต่างประเทศก็ได้ อีกทั้งร่วมงานกับภาคอุตสาหกรรมแบบ Real Sector ทำงานจริง กับหน่วยงานจริง ๆ เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรง และได้คอนเน็กชั่นที่มีคุณภาพดีต่าง ๆ มากมายในระหว่างเรียน ขณะเดียวกัน ในปีนี้ เรายังมีนโยบายในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้ทันสมัยและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักศึกษามั่นใจได้ว่าสามารถเรียนรู้และเติบโตภายในมหาลัยแห่งนี้ได้” ศ.ดร. สื่อจิตต์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โลกยุคใหม่เรียกร้ององค์ความรู้ใหม่ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต จึงมีความมุ่งเน้นสร้างมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้และทักษะนำสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษะที่เกี่ยวข้องกับยุคสมัยศตวรรษที่ 21
“ทักษะและความรู้ในศตวรรษที่ 21 หลัก ๆ จะมีอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรกเรียกว่า Hard Skill หมายถึงการเรียนการสอน การเรียนรู้ การลงมือปฏิบัติ และประสบการณ์ต่าง ๆ ส่วนที่สอง คือ Soft Skill เช่น ทักษะการสื่อสาร การทำงานร่วมกันกับผู้คน กับกลุ่มต่าง ๆ และทักษะที่สาม คือ Meta Skill ซึ่งเป็นทักษะที่ค่อนข้างใหม่ ทักษะนี้จะเน้นในเรื่องการปรับตัว เพราะการปรับตัวนั้นสำคัญมาก เราต้องปรับตัวให้เท่าทันกับสิ่งแวดล้อมและบริบทสังคมที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา มหาวิทยารังสิต จะทำให้ท่านผู้เรียนมีทักษะเหล่านี้ครับ”
ทั้งนี้ นอกจากทักษะความรู้ต่าง ๆ ที่ผู้เรียนจะได้รับ มหาวิทยาลัยรังสิต ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการจบการศึกษาตรงเวลา เช่น หลาย ๆ หลักสูตรของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต มีแคมเปญว่านักศึกษาสามารถจบการศึกษาได้ภายในหนึ่งปี ปริญญาเอกสามารถจบการศึกษาได้ภายในสองปี โดยได้รับการตีพิมพ์ในฐานข้อมูลคุณภาพระดับนานาชาติ เช่น Scopus เป็นต้น ดังนั้น นักศึกษาจะสามารถเรียนได้ปราศจากข้อกังวลเรื่องเวลา รวมทั้งมีการยืนยันคุณภาพการศึกษาอย่างสมบูรณ์
พร้อมดูแลตั้งแต่ก้าวแรกไปจนตลอดชีวิต
และมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย
เป็นที่รู้กันว่า ถ้าสนใจเรียนต่อในระดับปริญญาโท-เอก มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนมากมายหลายแห่ง ซึ่งเป็นสิทธิของแต่ละคนว่าจะเลือกเรียนที่ไหนดี แต่ถ้าถามว่า การเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ศ.ดร.สื่อจิตต์ ให้คำตอบซึ่งน่าจะช่วยให้หลายคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
“มหาวิทยาลัยรังสิตเรามีนโยบายสำคัญซึ่งได้รับมาจากท่านอธิการบดี (ดร.อรรถวิทย์ อุไรรัตน์) นั่นก็คือ นักศึกษาคือหัวใจของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ก้าวแรกที่นักศึกษาก้าวเข้ามาสู่มหาวิทยาลัยรังสิต อาจารย์ยืนยันได้แน่นอนครับว่า ทุกท่านจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ตั้งแต่การรับสมัคร จนถึงวันรับปริญญา และยิ่งไปกว่านั้น เราจะดูแลท่านไปตลอดชีวิต ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ท่านสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ ดังนั้นสรุปได้ว่า ก้าวเข้ามาแล้วเราจะอยู่กันเป็นครอบครัวมหาวิทยาลัยรังสิตครับ ซึ่งเป็นความแตกต่างที่หาจากที่อื่นไม่ได้”
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจไม่น้อย คือ ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา งบประมาณสำหรับการทำวิจัย รวมถึงสิทธิพิเศษด้านทุนการศึกษาซึ่งถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี
“มหาวิทยาลัยรังสิตมีนโยบายให้ทุนเรียนดีแก่นักศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับทุนได้จากคณะที่ตนเรียนอยู่ นอกจากนั้น เรายังมีทุนส่วนลดต่าง ๆ ตาม MOU เพื่อช่วยกันผลิตบุคลากรป้อนสู่หน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศ อีกทั้งสามารถผ่อนชำระค่าเทอม ค่าหน่วยกิต ต่ำสุด 0 เปอร์เซ็นต์ได้ถึง 4 งวด ในทุกเทอมการศึกษา ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมีแคมเปญสำหรับข้าราชการ ศิษย์เก่า และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเราจะมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้ เช่น ส่วนลด 20 เปอร์เซ็นต์สำหรับค่าหน่วยกิตและมอบทุนสนับสนุนงานวิจัยอีก 20,000 บาท เพื่อตอบโจทย์การผลิตบุคลากรให้กับประเทศ”
เพราะจุดประสงค์ของการเรียนรู้ คือ “การเติบโต” และไม่มีคำว่า “สายเกินไป” สำหรับ “การเรียนรู้” และ “การศึกษา” สำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะเรียนต่อปริญญาโทและเอกที่มหาวิทยาลัยไหนดี ศ.ดร.สื่อจิตต์ กล่าวย้ำในตอนท้าย เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สนใจใฝ่ศึกษาเรียนรู้
“มหาวิทยาลัยรังสิต มีความพร้อมที่จะพัฒนาสู่ความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรที่หลากหลาย คุณภาพการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูง อีกทั้งยังให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ทุนการศึกษาแก่ผู้ที่สนใจ ดังนั้น ผู้ที่กำลังลังเลสงสัยว่าจะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิตดีหรือเปล่า ผมขอเชิญชวนให้ท่านพิจารณาว่า การมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต คือการลงทุนเพื่ออนาคตของท่านครับ เราพร้อมจะช่วยท่านเพิ่มทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อการเติบโตในสายงานของท่าน และประสบความสำเร็จในชีวิตรวมทั้งอนาคตที่มั่นคงของท่านอย่างแน่นอนครับ”