การสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคงในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สำนักงานประกันสังคมขับเคลื่อนดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การส่งเสริมให้มีการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายจากสำนักงานประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบอาชีพอิสระสมัครใจเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เกือบ 11 ล้านคนแล้ว โดยความคุ้มครองที่ได้รับยังครอบคลุมไปถึงกรณีทุพพลภาพอีกด้วย
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร ไรเดอร์ คนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือฟรีแลนซ์ เป็นต้น ได้มีหลักประกันความมั่นคงในการดำเนินชีวิต โดยผู้ประกันตนจะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมทั้งกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพและกรณีสงเคราะห์บุตร ซึ่งผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละทางเลือกที่จ่ายเงินสมทบ ซึ่งหากผู้ประกันตนมาตรา 40 ประสบเหตุอันตรายหรือเจ็บป่วย จนทำให้กลายเป็นผู้ทุพพลภาพ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ ดังนี้ ทางเลือกที่ 1 (จ่ายเงินสมทบเดือนละ 70 บาท) และทางเลือกที่ 2 (จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท) จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เป็นรายเดือน 500-1,000 บาท เป็นเวลา 15 ปี ส่วนทางเลือกที่ 3 (จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท) ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500-1,000 บาท ซึ่งจะได้รับเงินทดแทนตลอดชีวิต
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ กรณีทุพพลภาพจะเกิดขึ้นได้อยู่ที่ระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตน โดยการจ่ายเงินสมทบ 6 ใน 10 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 บาท/เดือน แต่หากจ่ายเงินสมทบ 12 ใน 20 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 650 บาท/เดือน ถ้าจ่ายเงินสมทบ 24 ใน 40 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 800 บาท/เดือน และจ่ายเงินสมทบ 36 ใน 60 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 1,000 บาท/เดือน นอกจากนี้ หากผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ทุพพลภาพมีเหตุให้เสียชีวิตระหว่างรับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีนี้จะได้รับเงินค่าทำศพ ดังนี้ ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 ได้รับเงินค่าทำศพ 25,000 บาท ส่วนทางเลือกที่ 3 จะได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท ซึ่งช่องทางการรับเงินประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตนมาตรา 40 สามารถรับได้ใน 3 ช่องทาง คือ 1.รับที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา 2.รับทางธนาณัติ และ 3. รับเงินผ่านธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบทุกเดือน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนให้ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถส่งเงินสมทบล่วงหน้าได้ถึง 12 เดือน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง Line@ssothai และ www.sso.go.th