สว.อลงกต หารือเรียกร้อง นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ “ต้องใช้คำสั่งคสช. 39 ควบคุม มสธ.” เหตุละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่และล่าช้าเกินสมควร ไร้ผู้นำ ไร้ธรรมาภิบาล ส่อกลั่นแกล้งคนเห็นต่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 27 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา วาระการหารือ ผศ.(พิเศษ) ดร.อลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา หมายเลข 189 ได้อภิปรายหารือท่านประธานสภาไปยัง นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาการขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง ในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญ ดังนี้
46 ปี แห่งการสถาปนามสธ. มหาวิทยาลัยเปิดระบบทางไกลชั้นนำ วันนี้ ในช่วงเวลา 09.00 น. ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี จะไปร่วมกล่าวแสดงความยินดี และกล่าวนำ ในหัวข้อ “ซอฟต์พาวเวอร์กับความสำคัญของอาหารไทย” นายกท่านไปมสธ. ขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรีที่ทุมเททำงานเชิงรุก เอาใจใส่งานของมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่ในวันนี้ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมากกว่าการไปเป็นเพียงวิทยากรบรรยายเท่านั้น ท่านในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดแห่งอำนาจฝ่ายบริหาร ภาระงานสำคัญของท่านคือ การติดตามตรวจสอบการบริหารราชการงานของมหาวิทยาลัย เมื่อพบว่ามีปัญหาการขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง ชัดแจ้งมานานกว่า 7 ปีแล้ว จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ต้องสะสางแก้ไขปัญหาทันที อย่าปล่อยให้ลอยนวล ปัญหามสธ.ที่สำคัญ ได้แก่ 1.กรณีสภามสธ.นำเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย จำนวนกว่า 5,500 ล้าน ไปลงทุนกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือพูดง่ายๆ เอาไปเก็งกำไร ซึ่งส่อว่าขัดกับ พรบ.มสธ. พ.ศ. 2521 และเรื่องเงินลงทุนนี้น่าจะผิดต่อวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัย อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ คาดว่าเงินต้น น่าจะมีการขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่องหลายร้อยล้านบาท 2.กรณีการจัดทำโครงการพัฒนาระบบทดสอบออนไลน์ 3.ปัญหาการร้องเรียนผู้บริหารประพฤติมิชอบในโครงการต่างๆ 4ปัญหาการยืมตัวข้าราชการจากจุฬาลงกรณ์มารักษาการอธิการบดี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีการกล่าวหาว่ามีการรับเงินเดือนสองทาง และ 5.การจัดทำระบบการเงินของมสธ.ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ โดย สตง. ได้แสดงความเห็นต่อรายงานการเงินของมสธ.อย่างมีเงื่อนไข รายงานการเงินไม่ถูกต้องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งหมดนี้ยังเป็นปัญหาคาราคาซัง ไม่เคยมีคำตอบและยังมีเรื่องร้องเรียนไปที่ป.ป.ช.อีกด้วย สภาพการบริหารงานแบบนี้จะเข้าข่ายว่าล้มเหลว หรือไม่
ปัญหาที่สำคัญที่สุดของมสธ.คือ การขาดผู้บริหารตัวจริงมานาน คือ 1.นายกสภามหาวิทยาลัย 2.คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย และ 3. ตัวอธิการบดี ทุกวันนี้เป็นการดำรงตำแหน่ง รักษาการ กันหมด ย้ำนะครับว่า ไม่มีตัวจริง เกิดอะไรขึ้น ใครได้ประโยชน์กับสภาพการณ์แบบนี้ มีการร้องเรียนว่า การสรรหานายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ชุดใหม่ เข้าข่ายการสืบทอดอำนาจและปกป้องผลประโยชน์พวกพ้อง มีลักษณะผลัดกันเกาหลัง เลือกกันเองชงกันเอง และเรื่องอื้อฉาวคือ กรณีปัญหาการเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอธิการบดี คนใหม่ ที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 7 ปี โดยที่สภามหาวิทยาลัยในชุดก่อน เคยมีมติเห็นชอบ รศ.ดร.วรรณธรรม กาญจนสุวรรณ เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี มาตั้งแต่ปี 2560 ตอนนี้ 67 แล้วและต่อมามีการฟ้องร้องกันหลายคดีและบัดนี้คดีความต่างๆ ก็สิ้นสุดลงแล้ว หากแต่ก็ยังไม่มีการขอเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอธิการบดีคนใหม่ สภามหาวิทยาลัยชุดรักษาการนี้ อ้างว่าเขาขาดคุณสมบัติไปแล้ว จึงมิอาจเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอธิการบดี ได้อีก เพราะมีพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนไป เขาถูกกล่าวหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ปัจจุบันเขายังอยู่ในกระบวนการสอบสวนที่ยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นเขาจึงยังไม่เคยถูกคำสั่งการลงโทษทางวินัยใดๆ เลย หากแต่สภามสธ.กลับเร่งรีบ ไปเพิกถอนสิทธิการเป็นอธิการบดีเขาไปก่อน หรือจะเป็นการสกัดกั้นทุกวิถีทางไม่ให้เขาเป็นอธิการบดี ทำกันแบบมีอคติหรือไม่
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) ได้มีมติให้เสนอแนะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ให้ดำเนินการแก้ปัญหาการขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรงของมสธ. โดยต้องเข้าควบคุม มสธ. แต่เรื่องยังเงียบ อีกทั้งช่วงเดือน มีนาคม 2567 ศาลปกครองกลาง (คดีหมายเลขดำที่ บ.64/2564 และคดีหมายเลขแดงที่ บ.167/2564) มีคำพิพากษาตอนหนึ่งว่า สภา มสธ. ละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่และล่าช้าเกินสมควรกว่า 2 ปี 8 เดือน ชัดเจนนะครับแล้ว ว่าใครที่ทำผิด ละเลยต่อหน้าที่มานานแล้ว ถึงเวลาที่ท่านนายกรัฐมนตรีต้องรีบเข้าไปจัดการโดยเร็วครับ นี่คือ การขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรงของสภามสธ. ครอบงำมานานกว่า 7 ปี ตั้ง รักษาการอธิการบดี พวกตนเองมา 6 คนแล้ว มากไปไหมครับ ทำกันแบบนี้
ในการนี้ กระผมขอหารือท่านประธานสภาไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ให้ท่านกรุณาพิจารณาใช้มติที่ประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษาที่ได้เสนอแนะให้กับรัฐมนตรีต้องเข้าควบคุมมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยทันที ดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 39/2559 เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ขอนำเรียนให้ท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยความเคารพ อย่าต้องให้รอไปเรื่อยๆ เพราะประชาคมมสธ.เขาเดือดร้อนมาก เขาคงไม่กล้าบอกกับท่านตรงๆ คงเกรงกลัวอะไรบางอย่าง ทั้งอำนาจและอิทธิพลมืด ล่าสุดมีทั้งการข่มขู่ โยกย้าย และถึงขั้นสั่งพักราชการ กับคนที่เห็นต่าง กันเลยครับ ไร้ธรรมาภิบาลจริงๆ ครับ สว.อลงกตกล่าว
