มทร.สุวรรณภูมิ ไล่ออก 4 นักศึกษา ที่ก่อเหตุทำร้ายรุ่นน้อง หลังตั้งคณะกรรมการสอบพบ มี 8 นักศึกษาเกี่ยวข้อง ส่วนอีก 4 รายสอบสวนเพื่อขยายผลในเรื่องการทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมลงโทษทางวินัยหรือไล่ออกทันที เลขานุการ รมว.อว.ให้สอบเพิ่มพบมีการทำร้ายรุ่นน้องในวันที่ 13 ส.ค.และให้ตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ทำการฝึกนักศึกษาให้กระทำการรุนแรงหลัง “กัน จอมพลัง” พานักศึกษาที่ถูกทำร้ายให้ปากคำ ยันจะหาที่เรียนใหม่ให้
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สป.อว.) น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว.ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว.ให้เป็นผู้แทนมารับเรื่องร้องเรียนความเป็นธรรมจาก นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์หรือ กัน จอมพลัง กรณีนักศึกษา มทร.สุวรรณภุมิ วิทยาเขตนนทบุรีที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายซึ่งได้เดินทางมาขอความเป็นธรรมพร้อมกับครอบครัว โดยกัน จอมพลัง ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกับนักศึกษารุ่นพี่พร้อมกับเรียกร้องให้มีการตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ทำการฝึกนักศึกษาให้กระทำการรุนแรงพร้อมกับมีคำสอนผิดๆ เช่น ให้ฆ่าคน ให้ต่อยอาจารย์ ให้ดูดกัญชา เป็นต้นผ่านกิจกรรมรับน้องที่อยู่ในมหาวิทยาลัยรวมทั้งแนวทางแก้ปัญหาและได้ให้นักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ตนถูกรุ่นพี่ทำร้าย 2 ช่วงคือวันที่ 13 ส.ค.เวลาประมาณ 15.00 น.ที่โรงอาหาร มีรุ่นพี่ 2 -3 คนเข้ามาล่าวหาว่าตนขายสถาบันพร้อมกับดึงคิ้วและลากไปทำร้ายด้วยการต่อย ศอก เข่า และถูกทำร้ายครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 ส.ค.ในมหาวิทยาลัยพร้อมกับพ่อของตนและมีการนำบัตรประชาชนของตนไปด้วย ทั้งนี้ ตนมีความประสงค์จะขอย้ายสถานที่เรียนไปเรียนยังสถาบันอื่นด้วย
โดยน.ส.สุชาดา กล่าวว่า กระทรวง อว.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์เกิดขึ้นและได้ติดตามความคืบหน้ากับ มทร.สุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้ส่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาถึงกระทรวง อว.แล้ว ยืนยันว่ากระทรวง อว.จะดูแลนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุดทั้งเรื่องการเยียวยาและประสานกับสถาบันการศึกษาที่ผู้เสียหายต้องการไปเรียนต่อ
จากนั้น น.ส.สุชาดา ศ.ดร.ศุภชัย นายสัญญา คำจริง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มทร.สุวรรณภูมิและ ผศ.พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริง โดย น.ส.สุชาดา กล่าวว่า การแก้ปัญหามี 4 แนวทางประกอบด้วย 1.ให้ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายนักศึกษารุ่นน้องในวันที่ 15 ส.ค.ต้องมีบทลงโทษและให้ดำเนินคดีอาญา 2.ได้ข้อมูลใหม่จากนักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายว่าในวันที่ 13 ส.ค.ก็ถูกรุ่นพี่ทำร้ายซึ่งเป็นนักศึกษารุ่นพี่คนละกลุ่มกับที่รุมทำร้ายในวันที่ 15 ส.ค.กระทรวง อว.ขอให้ มทร.สุวรรณภูมิ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานและรายงานผลการสอบสวนมาถึงกระทรวง อว.ภายใน 2 วันคือไม่เกินวันที่ 21 ส.ค.นี้ ถ้าพบมีการไปทำร้ายจริง ให้ไล่ออกและดำเนินคดี 3.การรับน้องที่เป็นเหตุนำสู่การทำร้ายนักศึกษารุ่นน้องในวันที่ 13 และ 15 ส.ค.มีนักศึกษาเข้าร่วมประมาณ 40 – 50 คนให้ มทร.สุวรรณภูมิ ตรวจสอบว่ามีรุ่นพี่กี่คนและมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ และถ้าตรวจสอบการรับน้องแล้วพบว่าไม่ทำตามกฎของมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ทำผิดจะต้องถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยและ 4.ให้ มทร.สุวรรณภูมิ ไปตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่นำนักศึกษาไปฝึกและมีคำสอนผิดๆ ร่วมกับกัน จอมพลังและนักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค.นี้
ขณะที่ ผศ.พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ ได้แถลงผลการสอบสวนกรณีการทำร้ายร่างกายนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ ในวันที่ 15 ส.ค.ว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวจรปิดภายในพบนักศึกษาผู้ก่อเหตุและผู้อยู่ในเหตุการณ์ จำนวน 8 ราย โดยใน 8 รายมี 4 รายที่ลงมือทำร้ายนักศึกษาและต่อยผู้ปกครองจริง เป็นนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องงกล 2 ราย นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องมือและแม่พิมพ์ 1 รายและนักศึกษาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม 1 ราย โดยทั้ง 4 รายให้ไล่ออกจากมหาวิทยาลัยทันทีตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาพร้อมดำเนินคดี ส่วนอีก 4 รายเป็นนักศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้า 2 ราย นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องมือและแม่พิมพ์ 1 รายและนักศึกษาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม 1 ราย เป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ปรากฎว่าเข้าไปทำร้ายนักศึกษาและผู้ปกครอง มหาวิทยาลัยจะสอบสวนเพื่อขยายผลในเรื่องการทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะลงโทษทางวินัยหรือไล่ออกทันที
ด้านนายสัญญา คำจริง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มทร.สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ มทร.สุวรรณภูมิได้มี 4 มาตรการในการดูแลความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยคือ 1.คัดกรองนักศึกษาและบุคคลภายนอกที่เข้า-ออกมหาวิทยาลัยโดยต้องแสดงบัตรนักศึกษาหรือแลกบัตรประชาชนและจะนำระบบ AI มาสแกนคนเข้าออกด้วย 2.ถ้าจะจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยเกินเวลา 18.00 น.ให้ขออนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ 3.ถ้ามีการจัดกิจกรรมหรือเกิดเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วนและ 4.ถ้าพบมีบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรง มหาวิทยาลัยจะมีบทลงโทษร้ายแรง