เมื่อวันที่ 17 ก.ค.67 นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว.ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ให้เป็นผู้แทนรับหนังสือจากนายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน ที่เดินทางมาพร้อมกับ ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เรื่อง ขอให้ตรวจสอบเอกสารแสดงผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างประเทศ และขอให้ตรวจสอบการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศในประเทศไทย ที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (ศรีอยุธยา) กรุงเทพฯ
นายดลชนก กล่าวว่า มูลนิธิวินวินเคยรับ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เข้าร่วมงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิ ซึ่งในขณะสมัครเข้าทำงานผู้สมัครได้แสดงเอกสารประกอบการสมัครงานและลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในเอกสารรายงานผลการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา หรือ BODHISASTRA UNIVERSITY FLORIDA STATES OF AMERICA แต่ด้วยปัจจุบันพบข่าวปรากฏตามที่สื่อมวลชนที่นำเสนอ มีสถาบันการศึกษาที่อ้างว่าได้จดทะเบียนและได้รับการรับรองจากต่างประเทศ มาดำเนินกิจการในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และมีประชาชนคนไทยส่วนหนึ่งลงทะเบียนเรียนเพื่อให้ได้วุฒิปริญญามาใช้ในเวลาอันรวดเร็วเพียง 1 ปี ก็สำเร็จการศึกษา ตนจึงเดินทางมายื่นหนังสือฉบับนี้ถึง รมว.อว. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบ เอกสารรายงานผลการศึกษาฉบับนี้ ว่าสามารถนำมาใช้ในประเทศไทยหรือไม่ และมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทยหรือไม่
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้ รมว.อว. สั่งการให้มีการตรวจสอบรายละเอียดใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. การดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในประเทศไทย เป็นไปตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ 2. เอกสารรายงานผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับการรับรองตามกฎหมายไทยและสามารถนำไปใช้ยื่นสมัครงานหรือทำงานในหน่วยงานราชการรวมทั้งเอกชนได้หรือไม่ 3. การดำเนินกิจการใด ๆ ในประเทศไทยโดยใช้คำว่า "สถาบัน" ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศแห่งนี้ อาจทำให้คนทั่วไปอาจเข้าใจเชื่อและสมัครเรียนเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษามาใช้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และ 4. ประเด็นอื่น ๆ ที่อยู่ในอำนาจของกระทรวง อว. หากพบว่าดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมายขอให้ตรวจสอบด้วย เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาของประเทศไทยที่จะส่งผลไปถึงการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต
ด้านนายวันนี กล่าวว่า กระทรวง อว.จะเร่งตรวจสอบตามกระบวนการและขั้นตอน ซึ่งกรณีของมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ ยังไม่เคยมีใครนำมาเทียบคุณวุฒิหรือได้รับการรับรองกับกระทรวง อว. ทั้งนี้ การพิจารณาเทียบคุณวุฒิจากต่างประเทศของกระทรวง อว. จะเป็นไปตามกฎกระทรวงมาตรฐาน หลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 ซึ่งดําเนินการเทียบคุณวุฒิเป็นกรณีๆ ตามที่มีผู้ยื่นคำร้อง โดยข้อ 16 ของกฎกระทรวงกําหนดไว้ว่า “การเทียบหลักสูตรการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในต่างประเทศกับหลักสูตรการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศเพื่อรับรองคุณวุฒิของผู้สําเร็จการศึกษา” มีหลักการคือ 1.หลักสูตรของสถาบันอุดมศึกษาในต่างประเทศต้องได้รับการรับรองมาตรฐานตามกฎหมายของประเทศนั้น หรือได้รับการรับรองจากองค์กรวิชาชีพหรือวิชาการของประเทศนั้น และ 2.เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานเทียบได้กับมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษา และมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา
ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กระทรวง อว. ได้ออกประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา เรื่อง แนวทางการพิจารณาเทียบคุณวุฒิผู้สําเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากต่างประเทศกับมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 เพื่อเป็นแนวทางการพิจารณาเทียบคุณวุฒิผู้สําเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากต่างประเทศ กับ มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของไทย โดยข้อ 5.2 ของประกาศฯ กําหนดว่า “สถาบันการศึกษาที่ผู้ยื่นคําร้องสําเร็จการศึกษาต้องได้รับการรับรองวิทยฐานะจากหน่วยงานตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ หรือจากหน่วยงานรับรองวิทยฐานะที่ประเทศไทยรับรอง ในกรณีที่สถาบันอุดมศึกษามีการเปิดสาขาในต่างประเทศได้ต้องมีหลักฐานการรับรองสาขานั้นจากหน่วยงานที่ให้การรับรองของสถาบันการศึกษานั้นด้วย” ดังนั้น หากสถาบันการศึกษาใดที่มาเปิดสาขาในไทยแล้วไม่ได้รับการรับรองจะถือว่าการจัดการศึกษาดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและอาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายได้