โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เผย หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด หรือทางการแพทย์เรียกว่า Robotic Surgery เป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้การผ่าตัดรักษาผู้ป่วยทำได้ดีขึ้น เพื่อการรักษาที่ดีขึ้นกว่าเดิม ผ่าตัดรักษาโรคซับซ้อนหลายระบบอย่างแม่นยำ ลดภาวะแทรกซ้อน มีความปลอดภัยมากขึ้น ฟื้นตัวเร็ว ลดเวลาการครองเตียง ลดความแออัด ทำให้รองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรงพยาบาลราชวิถี ถือเป็นหน่วยงานหลักในสังกัดกรมการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ และเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในกระทรวงสาธารณสุขที่นำร่องด้านการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ เพื่อศึกษาพัฒนาการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดรักษาที่ซับซ้อน และการผ่าตัดรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการรักษาและลดภาวะแทรกซ้อน
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์นำมาใช้ในการผ่าตัดผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคที่ต้องอาศัยการผ่าตัดที่ซับซ้อนในหลายระบบได้ เช่น โรคในระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ มะเร็งต่อมลูกหมาก, โรคระบบโสต ศอ นาสิก ได้แก่ โรคของต่อมทอลซิล และมะเร็งที่โคนลิ้น, โรคในระบบศัลยศาสตร์ ได้แก่ โรคมะเร็งตับ และลำไส้ใหญ่, โรคในระบบนรีเวช ได้แก่ เนื้องอกมดลูก และโรคในระบบหัวใจและทรวงอก เป็นต้น
ผศ.(พิเศษ) นพ.ธเนศ ไทยดำรงค์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ กลุ่มงานศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่โรงพยาบาลราชวิถีได้เปิดศูนย์ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ปัจจุบันโรงพยาบาลราชวิถีได้ดำเนินการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ไปแล้วกว่า 664 ราย โดยเป็นการผ่าตัดต่อมลูกหมากด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด จำนวน 228 ราย การผ่าตัดตับ และตับอ่อนด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด จำนวน 151 ราย การผ่าตัดมดลูกและรังไข่ร่วมกับการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองด้วยหุ่นยน์ช่วยผ่าตัด จำนวน 108 ราย การผ่าตัดเนื้องอกทางช่องปากด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด จำนวน 22 ราย การผ่าตัดปอดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด จำนวน 17 ราย และอื่นๆ
การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ดีหลังการผ่าตัด ซึ่งแพทย์ทำการผ่าตัดผ่านช่องขนาดเล็ก ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัว และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ข้อดีของการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดคือ ความแม่นยำในการผ่าตัดของมือหุ่นยนต์ ที่บังคับโดยศัลยแพทย์ ไปในที่เข้าถึงได้ยากในอุ้งเชิงกราน เช่นเดียวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่แพทย์ด้านระบบทางเดินปัสสาวะนำหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด มาใช้ในการผ่าตัดผู้ป่วยด้วยวิธีผ่าตัดแผลเล็กบาดเจ็บน้อย (Minimally invasive Surgery) เนื่องจากต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะที่อยู่ในพื้นที่ลึกและแคบในอุ้งเชิงกราน โดยมือของศัลยแพทย์เข้าไปได้ลำบาก การมองเห็นไม่ชัดเจน ดังนั้น การนำหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่มีแขนกลเคลื่อนไหวได้ 7 ทิศทาง มีเทคโนโลยีภาพ 3 มิติ ช่วยทำให้มีความแม่นยำในการผ่าตัดมากขึ้น ให้ผลการรักษาที่เหนือกว่าในเรื่องขนาดแผลที่เล็ก ความเจ็บปวดที่น้อยกว่า ฟื้นตัวกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ภาวะแทรกซ้อนที่น้อย รวมทั้ง คุณภาพชีวิตที่ดีหลังการผ่าตัด ในการควบคุมการปัสสาวะหลังการผ่าตัดได้ดี