กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เขียนจดหมายถึงปลัดกระทรวง ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ เน้นสิ่งที่ทำได้ และทำอยู่จริง มิใช่คำพูดสวยหรูเพื่อการสร้างภาพหลอกลวงสังคมไปวันๆ เท่านั้น
กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ เรื่อง ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กรตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ มีรายละเอียดดังนี้
ตามที่ท่านได้นำพระราชปณิธานของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ความว่า
“ให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” มาใส่ไว้ในนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขนั้น บัดนี้เป็นที่ชัดเจนว่า ท่านมิได้ปฏิบัติตามพระราชปณิธานดังกล่าว โดยมีพฤติการณ์ที่ชวนสงสัยว่าท่านถือเอาประโยชน์ของบริษัทยาเป็นหลัก ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นรอง อีกทั้งท่านยังมิได้ปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตามที่ท่านอวดอ้างไว้บนเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยเป็นเพียงคำโฆษณาสวยหรูที่มิได้นำมาปฎิบัติจริง ดังมีรายละเอียดดังนี้
จุดยืนองค์กร ส่วนกลาง “พัฒนานโยบาย กำกับ ติดตาม ประเมินผล”
ท่านไม่มีการประเมินผลจากนโยบายแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจมากมาย โดยไม่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตตามกล่าวอ้าง ซ้ำร้ายยังมีผลทำให้คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก
วิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรหลักด้านสุขภาพที่รวมพลังสังคม เพื่อประชาชนสุขภาพดี”
ท่านไม่ใส่ใจข้อมูลจากแพทย์ จากนักวิชาการ จากแพทย์แผนไทย จากปราชญ์ชาวบ้าน ผู้มีประสบการณ์ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด ด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน สมุนไพร หรือยาแผนปัจจุบันที่มีราคาถูก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ แต่กลับให้ความสำคัญกับยาที่ แพง มีอันตราย และด้อยประสิทธิภาพจากบริษัทยาข้ามชาติ
ท่านไม่สนใจผลกระทบจากวัคซีนโควิด ทั้งยังปฏิเสธที่จะรับฟังข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด ไม่รับฟังข้อมูลจากนักวิชาการที่มีความเห็นแตกต่างจากท่าน
ท่านไม่ใส่ใจที่จะหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทยทั้งที่มีข้อมูลชัดเจนจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และมีการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวในสื่อสาธารณะ
พันธกิจ “พัฒนาและอภิบาลระบบสุขภาพ อย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน”
ท่านไม่สนใจการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบสุขภาพจากภาคประชาชน และไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ แต่กลับเน้นการพึ่งพาผลิตภัณฑ์ยาจากบริษัทยาข้ามชาติและเชื่อฟังคำแนะนำจากองค์กรในต่างประเทศที่ไม่เข้าใจบริบทของสังคมไทย
เป้าหมาย “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน”
ขณะนี้ประชาชนสุขภาพทรุดโทรม เจ้าหน้าที่อมทุกข์ ระบบสุขภาพล้มเหลว
M mastery นายตนเอง
ขณะนี้ ท่านทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้แทนบริษัทยาข้ามชาติ ไม่กล้าเปิดเผยสัญญาที่ท่านเองทำไว้กับบริษัทยา ทั้งที่มีข้อมูลชวนสงสัยว่า บริษัทยาจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในสัญญาดังกลาวจนอาจทำให้เกิดผลเสียต่อภาครัฐและประชาชนผู้บริโภค หากท่านปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ขอให้ท่านแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการเปิดเผยสัญญาจัดหาวัคซีนโควิดที่ท่านเป็นผู้ลงนามไว้กับบริษัทยาในขณะที่ท่านอยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรค
O originality สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพ
ท่านไม่เข้าใจ ไม่รู้จักนวัตกรรม ดังจะเห็นได้จากในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด มีนวัตกรรมสมุนไพรไทยมากมายที่มีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรค แต่ท่านกลับไม่ใส่ใจแถมด้อยค่านวัตกรรมดังกล่าวของคนไทยด้วย
P people centered approach
ท่านทำตนเป็นเจ้าขุนมูลนาย ไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา ไม่สนใจว่าในปีที่ท่านเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงเป็นปีที่คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติแต่ท่านไม่ใส่ใจในเรื่องดังกล่าวเลย
H humility อ่อนน้อมถ่อมตน
หากท่านมีความอ่อนน้อมถ่อมตนจริง ท่านสามารถแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนได้ด้วยการ ขอโทษสังคมในความผิดพลาดที่ท่านได้ก่อ จากการดำเนินงานด้านสาธารณสุขที่ผิดพลาดจนทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุดในประวัติการณ์ในช่วงที่ท่านอยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นจึงขอให้ท่านทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ โดยเน้นให้เป็นสิ่งที่ทำได้ และทำอยู่จริงๆ มิใช่คำพูดสวยหรูเพื่อการสร้างภาพหลอกลวงสังคมไปวันๆ เท่านั้น
กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์