สสส. สานพลังสถาบันยุวทัศน์ ฯ-อาชีวศึกษาระยอง 5 แห่ง ขยายผลความสำเร็จขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน สวมหมวกกันน็อก 100%-ไม่ขับเร็ว-ดื่มไม่ขับ หนุนให้เกิด Safety Zone รอบสถานศึกษา ลดการเสียชีวิตเป็นศูนย์ในเด็ก-เยาวชน
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ โรงแรมแทมมารินด์ การ์เด้น จ.ระยอง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มเด็ก และเยาวชน จ.ระยอง ภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือจังหวัดต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็ก และเยาวชน ร่วมกับ วิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคระยอง วิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด วิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง และวิทยาลัยการอาชีพแกลง และเครือข่ายความปลอดภัยทางถนนจังหวัดระยอง สำนักงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรภาคตะวันออก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์อุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ของ Thai RSC พบว่าไทยมีผู้บาดเจ็บอุบัติเหตุทางถนน ปี พ.ศ.2566 จำนวน 808,643 ราย ในจำนวนนี้ 37.88% เป็นเด็ก และเยาวชนอายุระหว่าง 1-24 ปี โดยพาหนะที่เกิดเหตุเป็นอันดับ 1 คือ รถจักรยานยนต์ คิดเป็น 90.53% ขณะที่ จ.ระยอง มีอัตราการเสียชีวิต และบาดเจ็บสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของไทย ปี 2566 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวน 309 คน มีผู้บาดเจ็บ 13,170 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นเด็ก และเยาวชนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงถึง 77 ราย คิดเป็น 35.87% ผู้บาดเจ็บรวม 3,992 ราย จึงเกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านความปลอดภัยบนถนนร่วมกับสถาบันการศึกษา เร่งปลูกจิตสำนึกของความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน เน้นที่การส่งเสริมค่านิยมสวมหมวกนิรภัย 100% ขับรถโดยใช้ความเร็วที่ปลอดภัย ไม่ขับเร็ว ดื่มไม่ขับ
“สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทั้งภายใน ภายนอก และบริเวณรอบ ๆ สถานศึกษาทำให้สถานศึกษาเป็น Safety Zone สอดคล้องกับแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565–2570 มีเป้าหมายสำคัญคือส่งเสริมการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในกลุ่ม “ผู้ใช้รถจักรยานยนต์” ลดพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ เน้นแก้ไขในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงและในกลุ่มเสี่ยงสำคัญโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก และเยาวชน ทั้งนี้ ความสำเร็จในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ต้องอาศัยพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ร่วมมือกันลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ได้ เพราะเด็กและเยาวชน คือกำลังสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต” นางก่องกาญจน์ กล่าว
นายรวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ปี2564 ยท. ได้ลงนามความร่วมมือกับ 5 สถาบันอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง ซึ่งดำเนินงาน 5 มาตรการอย่างเข้มงวด ได้แก่ 1. ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมาย 2. ประกาศนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย 3. พัฒนาองค์ความรู้ด้านการขับขี่และทักษะการขับขี่ 4. ส่งเสริมการทำใบอนุญาตขับขี่ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก 5. สนับสนุนการปรับปรุงสภาพแวดล้อมส่งผลทำให้จำนวนของการบาดเจ็บลดลง และสามารถลดผู้เสียชีวิตให้เป็นศูนย์ได้ภายในปี 2565 ความสำเร็จดังกล่าว ยท. และ สสส. จึงได้สานต่อความสำเร็จในครั้งนี้เพื่อเป้าหมายการใช้หมวกนิรภัยให้ได้ 100% ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงสร้างนิสัยความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการดื่มไม่ขับ เคารพกฎจราจร รวมไปถึงการให้นักศึกษาที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมสามารถส่งต่อความรู้ความห่วงใยไปยังเพื่อนกลุ่มวัยเดียวกัน