สำนักพุทธฯ โพสต์เฟซบุ๊กแจงป้าย "พื้นที่หวงห้าม เขตกระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า" เป็นฝีมือผู้ไม่หวังดี สำนักพุทธฯ ไม่ได้เป็นคนติด หลังทราบข่าวได้รีบนำป้ายออกทันที และเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ไม่หวังดีต่อไป
จากกรณีที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่ามีคนพบป้าย "พื้นที่หวงห้าม เขตกระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า" ติดในบริเวณพุทธมณฑล ทางสำนักพุทธฯ ได้ออกมาปฏิเสธผ่านทางเฟซบุ๊กแล้วว่า ไม่ได้เป้นผู้ติดป้ายดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
"ตามที่มีผู้ตั้งคำถามเกี่ยวกับป้ายในพุทธมณฑล โดยระบุว่ามีเพื่อนไปวิ่งออกกำลังกายที่พุทธมณฑล แล้วเจอป้ายที่มีข้อความว่า “พื้นที่หวงห้าม เขตกระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า“ โดยถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงติดป้ายดังกล่าวและเป็นป้ายใหม่แขวนมาหลายวันแล้วนั้น
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอเรียนชี้แจงว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่ได้มีการติดตั้งป้ายดังกล่าว และได้นำป้ายดังกล่าวออกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีการแบ่งโซน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนซึ่งเข้ามาหาความสงบในพื้นที่พุทธมณฑลซึ่งเป็นพุทธสรณียสถานเนื่องจากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงได้มีการประกาศปิด-เปิดเส้นทาง ให้เป็นเวลาเพื่อจัดระเบียบการใช้เส้นทางภายในพุทธมณฑลให้เรียบร้อย ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้มาใช้บริการโดยภาพรวม ประกอบกับได้มีการลักขโมยสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในพุทธมณฑล ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงต้องเข้มงวดในการเปิด-ปิดเส้นทางบางเส้นทางภายในพุทธมณฑลโดยการกำหนดระยะเวลาการใช้เส้นทางได้ และไม่กระทบต่อผู้มาใช้บริการซึ่งมีเป็นจำนวนมากในช่วงเช้า เย็น และวันหยุด"
ด้านสำนักงานพุทธมณฑลย้ำ ป้าย "พื้นที่หวงห้าม เขตกระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า" เป็นฝีมือบุคคลภายนอกผู้ไม่หวังดี สำนักงานพุทธมณฑลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
"จากกรณีที่มีป้ายเขียนข้อความ "พื้นที่หวงห้าม เขตใช้กระสุนจริง ประชาชนห้ามเข้า” มาติด ณ บริเวณพื้นที่พุทธมณฑล และมีผู้นำไปโฟสต์ลงเฟสบุ๊ค และมีเพจดังได้นำเอาภาพดังกล่าวไปโพสต์ในเพจ นั้น
สำนักงานพุทธมณฑล ขอเรียนชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลภายนอกผู้ไม่หวังดี โดยที่สำนักงานพุทธมณฑลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และได้ดำเนินการเก็บป้ายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ไม่หวังดี ที่นำป้ายมาติดให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน ต่อไป"