ม.รังสิต รับสมัคร ป.ตรี แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนตะวันออก บูรณาการ “ภูมิปัญญาตะวันออก” พัฒนาไปพร้อมกับวิทยาศาสตร์สุขภาพยุคใหม่ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2567
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" เกี่ยวกับหลักสูตรระดับปริญญาตรีของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกฯ ว่า
สำหรับคนทั่วไปอาจไม่ทราบว่า วิวัฒนาการที่การแพทย์แผนตะวันออก การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน ได้เข้าสู่ระบบการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยที่มาพร้อมกับสภาวิชาชีพตามกฎหมายนั้น ได้ทำให้องค์ความรู้ในศาสตร์ภูมิปัญญาจะทำให้ต้องมีการ “วิจัย” และ “พัฒนา” อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้การเรียนในวิชาการแพทย์ภูมิปัญญา ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์แผนไทยบัณฑิต การแพทย์แผนจีนบัณฑิต หรือการแพทย์แผนตะวันออก ก็ต้องไปเรียนพื้นฐานที่สำคัญทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพด้วย เช่น ภูมิคุ้มกันวิทยา จุลชีววิทยา สรีรวิทยา ชีวเคมีการวิจัย เภสัชวิทยาและพิษวิทยาของพืข เภสัชพฤกษศาสตร์และสมุนไพร การทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพของสมุนไพร การประเมินความปลอดภัย การตรวจร่างกายและวินิจฉัยโรค ฯลฯ
ซึ่งในที่สุดแล้ว การใช้สมุนไพรในมิติต่างๆ ของ การแพทย์แผนไทยบัณฑิต แพทย์แผนจีนบัณฑิต แพทย์แผนตะวันออก ในมหาวิทยาลัย ก็ย่อมต้องมาผนวกรวมกันใช้ประโยชน์ที่พิสูจน์ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นการเรียนการสอนด้านการใช้สมุนไพร การแปรรูปสมุนไพร ในเรียนแพทย์แผนไทยบัณฑิต หรือการแพทย์แผนจีนบัณฑิต ยังต้องเรียนยาแผนปัจจุบันไปด้วย เพื่อทำให้การจ่ายยาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่ขัดหรือแย้งกับยาแผนปัจจุบัน หรือแม้แต่การระมัดระวังในการจ่ายยาสมุนไพร
ตัวอย่างเช่น ยาหอมชนิดในช่วยลดความดันโลหิตได้แบบไหนในเวลาเท่าไหร่ ยาหอมหรือสมุนไพรช่วยลดโรคซึมเศร้าได้ กลิ่นจากสมุนไพรหรือยาดมชนิดไหนมีผลต่อสุขภาพอย่างไร สมุนไพรใดที่ช่วยลดอาการปวดตามข้อและกล้ามเนื้อของผู้สูงวัยยาสมุนไพรตำรับไหนสามารถยับยั้งมะเร็งชนิดไหนได้บ้าง การใช้สมุนไพรที่มีต่อผิวพรรณความงามหรือมาเป็นเวชสำอาง ฯลฯ ตัวอย่างงานสมุนไพรที่กล่าวมาข้างต้น นับวันก็มีงานวิจัยที่ชัดเจนมากขึ้นทุกปี
โดยในปี 2567 ตลาดสมุนไพรไทยจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท และจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าในปี 2569 ตลาดสมุนไพรไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางด้านสมุนไพรอย่างมาก เพราะมีการซื้อขายสมุนไพรมากกว่า 1,800 ชนิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยมีการส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเคยคิดเป็นมูลค่ากว่า 12,211 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ หัตถการ ไม่ว่าจะเป็นการกดจุด การกอกโลหิต การฝังเข็ม การเผายา การประคบ การนาบยา การกัวซา ฯลฯ นับวันก็จะมีงานวิจัยที่พิสูจน์หาความจริงมากขึ้นทุกวัน และทำให้เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์และสุขภาพมากขึ้นด้วย
ยังไม่นับภูมิปัญญาตะวันออกที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน ทั้งในเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย และการบริหารจัดการอารมณ์และจิตเพื่อสุขภาพ นับวันก็ยิ่งมีความสำคัญต่อมนุษยชาติที่มีงานวิจัยและก้าวหน้ามากขึ้น
โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ประเทศไทยที่ได้เข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงวัยมากขึ้นทุกวัน ความจำเป็นที่จะต้องมีการแพทย์ภูมิปัญญา ที่มีการบูรณาการควบคู่กับวิทยาศาสตร์สุขภาพยุคใหม่ ที่มีการวิจัยอย่างต่อเนื่องยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้น
ถึงขนาดว่ากระทรวงสาธารณสุขได้เสนอโครงการผลิตกำลังคนด้านการสาธารณสุขเพิ่มเติม 9 สาขา 62,000 คน ซึ่งรวมถึงแพทย์แผนไทยด้วย
ยิ่งผลของสุขภาพของผู้ป่วยหรือประชาชนทั่วไปได้ผลดีมากขึ้นจากการแพทย์ภูมิปัญญา ก็ยิ่งทำให้การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน การแพทย์แผนตะวันออกได้รับความนิยมมากขึ้น และมีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน
ความสำคัญของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีความสำคัญเพียงใด และได้รับการยอมรับมากน้อยเพียงใด ก็ให้ลองพิจารณาจาก ประกาศคณะกรรมการมาตรฐานอุดมศึกษา เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิในสาขาวิชาแพทยศาสตร์ ระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2566 ฉบับลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ความว่า
“1.ด้านความรู้ (แพทยศาสตร์ ระดับปริญญาตรี) สามารถนำหลักการพื้นฐานและความรู้ดังต่อไปนี้ เพื่อการบริการสุขภาพ
1.1 ความรู้ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้แก่วิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมทั้ง การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และเทคโนโลยีการแพทย์“
หมายความว่าในอนาคตการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกจะยิ่งได้รับความเข้าใจหรือมีบทบาทมากขึ้นจากวงการแพทย์ยิ่งกว่านี้อย่างแน่นอน
ปัจจุบันนี้ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เปิดรับสมัครแล้วสำหรับคนที่ต้องการเรียนปริญญาตรี 3 สาขา ได้แก่ หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต การแพทย์แผนตะวันออก, หลักสูตรแพทย์แผนไทยบัณฑิต, และ หลักสูตรการแพทย์แผนจีนบัณฑิต ดังรายละเอียดต่อไปนี้
หลักสูตรแรก วิทยาศาสตร์บัณฑิต การแพทยแผนตะวันออก (ในปี 2568 จะเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาศาตร์บัณฑิต นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร) เรียน 4 ปี
โดยหลักสูตรนี้บูรณาการองค์ความรู้จากภูมิปัญญาเภสัชกรรมไทย ต่อยอดสู่การวิจัยพัฒนาให้ทันสมัยในรูปแบบต่างๆ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโลยี เรียนการควบคุณภาพตั้งแต่วัตถุดิบ จนถึงเป็นผลิตภัณฑ์ การพัฒนาสารสกัด การทดสอบประสิทธิผล และความปลอดภัย เพื่อให้ได้เวชภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง ตลอดจนผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ทันสมัย มีคุณภาพ มีประสิทธิผลและปลอดภัย เรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ ช่องทางการทำการตลาด ในสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อสร้างผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพร และทำวิจัยในโครงการพิเศษ (Spacial Projects)
นอกจากนั้นผู้ที่เรียนหลักสูตร วิทยาศาสตร์บัณฑิต การแพทยแผนตะวันออก
• มีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ด้านเภสัชกรรมไทย
• การประกอบอาชีพ เป็นผู้ประกอบการด้านยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ร้านขายยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร (green phamarcy) โรงงานผลิตยาสมุนไพร หรือเป็นนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งรวมถึง ยาแผนไทย อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เครื่องสำอาง
หลักสูตรที่สอง หลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต (พท.บ) เรียน 4 ปี
หลักสูตรนี้บูรณาการแพทย์วิทยาศาสตร์สุขภาพยุคใหม่กับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยทั้งด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย กัญชาศาสตร์ทางการแพทย์ การนวดไทย และผดุงครรภ์ การดูแลมารดาและเด็ก
เรียนการตรวจวินิจฉัยหาสมุฏฐานเหตุการเกิดโรค ความเจ็บป่วยหรือเสียสมดุล เพื่อการรักษาโรค การฟื้นฟู การป้องกัน การปรับสมดุลตรีธาตุ รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพและชะลอวัย ด้วยตำรับยาสมุนไพรและหัตถการต่างๆที่บูรณาการด้วยหลักการแพทย์แผนไทย จีน อายุรเวท เรียนโครงสร้างยาตำรับ การตั้งตำรับยาเฉพาะราย รสยา การวิเคราะห์ตำรับเพื่อการจ่ายยาตามกองพิกัดสมุฎฐาน การอ่านผลตรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินพยาธิสภาพหรือติดตามผลการรักษา การใช้กัญชาในการแพทย์แผนไทย การบริหารจัดการร้านยาและคลินิกการแพทย์แผนไทย ทำวิจัยในโครงการพิเศษ (Spacial Projects)
นอกจากนั้นผู้ที่เรียนหลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต
• สอบใบประกอบวิชาชีการแพทย์แผนไทย 4 ด้าน (ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การนวดไทยและการผดุงครรภ์ไทย)
• การประกอบอาชีพ สามารถเป็นแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หรือเปิดคลินิกแพทย์แผนไทย หรือเปิดสถานพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทย (คลินิกหรือ เวลเนส) ของตนเอง หรือทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (สปา นวดเพื่อสุขภาพ)
• เป็นเภสัชกรแผนไทย ประจำร้านขายยาและโรงงานผลิตยาสมุนไพร
• เป็นผู้ประกอบธุรกิจการผลิตตำรับยาแผนไทย/แผนโบราณ และผลิตภัณฑ์สุขภาพในระดับอุตสาหกรรม
หลักสูตรที่สาม หลักสูตรการแพทย์แผนจีน (พจ.บ) ใช้เวลาเรียน 6 ปี
• ปริญญาการแพทย์แผนจีน 2 ใบจากมหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนนานกิง ประเทศจีน (เป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งแรกของประเทศจีน)
• ไม่ต้องมีพื้นฐานภาษาจีน
เรียนการแพทย์แผนจีน การใช้ยาจีน ตำรับยาจีน ฝังเข็ม ครอบแก้ว การนวดทุยหนา ฯลฯ ด้วยมาตรฐาน เดียวกับมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนชั้นนำ จากประเทศจีน บูรณาการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการใช้สมุนไพรไทยร่วมกัน เรียนรู้การผลิตและการควบคุณภาพตำรับยาจีนตามหลักการทางเภสัชกรรมแผนปัจจุบัน
• การประกอบอาชีพ สามารถเป็นแพทย์แผนจีนในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน หรือเปิดคลินิกแพทย์แผนจีน หรือเป็นแพทย์แผนจีนทำงานร่วมกับสหวิชาชีพในโรงพยาบาล คลินิก หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
โดยทุกหลักสูตรสามารถกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ 200,000 บาทต่อปี รับทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ “รับจำนวนจำกัด”
สนใจติดต่อรับตรงได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2567 (แต่หากเต็มก่อนจะปิดรับสมัครทันที) ที่วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โทร. 0855536533
ด้วยความปรารถนาดี
อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
8 พฤษภาคม 2567
https://www.facebook.com/100044511276276/posts/973320707494963/?