พล.ต.ท.นพ.ธนา ธุระเจน ประธานคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม ได้กล่าวภายหลังประชุมบอร์ดแพทย์กองทุนประกันสังคม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ว่า ได้พิจารณาและมติเห็นชอบให้ปรับประกาศคณะกรรมการการแพทย์ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้ประกันตนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสามารถเข้ารับบริการยังสถานพยาบาลที่ไหนก็ได้ทั้งสถานพยาบาลรัฐและเอกชนที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคม ที่มีศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
โรคมะเร็งทุกชนิดเป็นโรคที่อยู่ในความคุ้มครองของสิทธิประกันสังคม สถานพยาบาลตามสิทธิที่ผู้ประกันตนเลือกจะต้องให้การดูแลผู้ประกันตนตั้งแต่ตรวจวินิจฉัยจนสิ้นสุดการรักษา กรณีเกินศักยภาพสถานพยาบาลตามสิทธิจะต้องส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษายังสถานพยาบาลระดับสูง สำหรับการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในวันนี้นั้นจะเป็นการช่วยให้ผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้เข้าถึงการรักษาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ประกันตนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสามารถเข้ารับบริการตามสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนมีความประสงค์จะไปรักษา โดยสำนักงานประกันสังคมจะทำการคัดเลือกสถานพยาบาลที่มีศักยภาพทั้งด้านการให้เคมีบำบัด หรือรังสีรักษา เป็นต้น เพื่อรองรับการดูแลผู้ประกันตนให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง
สำนักงานประกันสังคมได้เตรียมระบบ application ซึ่งให้บริการครบวงจรในการติดตามการรักษาและส่งต่อข้อมูล ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปดูรายชื่อสถานพยาบาลและมีช่องทางในการสื่อสาร ส่งต่อข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลตามสิทธิกับสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนประสงค์จะไปรักษา เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมกันนี้จะมีการกำกับติดตาม ประเมินผลการเข้าถึงบริการ และรายงานผลต่อคณะกรรมการการแพทย์
“ตามมติคณะกรรมการการแพทย์ ที่เห็นชอบเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากนี้ จะเร่งดำเนินการเตรียมเสนอวาระต่อคณะกรรมการประกันสังคมในเดือนถัดไป เพื่อให้คณะกรรมการประกันสังคมเห็นชอบ และเตรียมออกประกาศมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตน ทั้งนี้ หากดำเนินการออกประกาศแล้วเสร็จ สำนักงานประกันสังคมจะทำการประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งแนวทางการเข้ารับบริการและรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการให้ผู้ประกันตนทราบผ่านทาง www.sso.go.th พล.ต.ท.นพ.ธนา กล่าว