แอสตร้าเซนเนก้า ยอมรับครั้งแรก วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท มีผลข้างเคียง ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และ เกล็ดเลือดต่ำ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. สำนักข่าวดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษ รายงานว่า บริษัทยายักษ์ใหญ่ แอสตร้าเซนเนก้า ออกมายอมรับแล้วว่าวัคซีนป้องกันโควิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชื่อ โควิชิลด์ (Covishield) สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงลิ่มเลือด และจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ
ทั้งนี้วัคซีนโควิดดังกล่าว ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทอังกฤษ และสวีเดนโดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และถูกใช้ฉีดไปในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหราชอาณาจักร อินเดีย และประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม การวิจัยพบว่าวัคซีนดังกล่าวของแอสตร้าเซนเนก้า อาจทำให้บางคนเกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้ โดย คดีฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักรอ้างว่าวัคซีนดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส และเรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,600 ล้านบาท) แก่เหยื่อประมาณ 50 ราย
แม้บริษัทแอสตร้าฯ จะพยายามโต้แย้งข้อกล่าวอ้างดังกล่าว แต่ก็ยอมรับเป็นครั้งแรกในเอกสารของศาลฉบับหนึ่งว่า วัคซีน สามารถทำให้เกิด thrombocytopenia syndrome (TTS) หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน-ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ได้ในบางกรณี หรือก็คือ ภาวะที่มีลิ่มเลือดอุดตันและมีเกล็ดเลือดต่ำภายหลังการได้รับวัคซีน