สัปดาห์นี้พบป่วย "โควิด" 1.6 พันกว่าคน เฉลี่ย 239 รายต่อวัน ตายเพิ่ม 9 ราย กรมควบคุมโรคเผยเพิ่มขึ้นไม่มาก เป็นไปตามคาด ชี้เป็นโรคประจำถิ่น พบผู้ป่วยได้ตลอดปี ระบาดตามฤดูกาล พบมากขึ้นช่วงสงกรานต์ต่อเนื่องฤดูฝน-เปิดเทอม เหตุเชื้อไม่รุนแรง อาการเหมือนหวัดทั่วไป ทำป้องกันตัวลดลง ย้ำมีอาการให้ตรวจ ATK สวมมาสก์ ป้องกันนำเชื้อเข้าบ้านติดกลุ่มเปราะบาง
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของโรคโควิด 19 มอบหมายกรมควบคุมโรคติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ต่อเนื่อง พร้อมกำชับทุกหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 21 - 27 เม.ย. 2567) พบผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 1,672 ราย เฉลี่ย 239 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 390 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 148 ราย และมีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (วันที่ 14 - 20 เมษายน 2567) ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,004 ราย เสียชีวิต 3 ราย พบว่า ผู้ป่วยโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเป็นไปตามคาดการณ์ เนื่องจากโรคโควิด 19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี และยังเป็นโรคประจำฤดูกาล โดยจะพบผู้ป่วยมากขึ้นตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องจนถึงฤดูฝนที่กำลังจะถึงนี้และจะเป็นช่วงเปิดเทอมด้วย ไม่ต่างจากโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ทั้งไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี เป็นต้น แต่ความรุนแรงของโรคโควิด 19 ลดลงอย่างมาก จากการวิเคราะห์ข้อมูลติดตามย้อนหลังในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมาพบว่าอัตราป่วยตายของโรคโควิด 19 ลดลงจาก 0.98% (ปี 2563 - 2564) เป็น 0.04% (ปี 2567) ซึ่งใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่และต่ำกว่าไข้เลือดออก
นพ.ธงชัยกล่าวว่า ปัจจุบันมีองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น มีการตรวจวินิจฉัยที่ดีขึ้น มียารักษาทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งมีวัคซีนป้องกันโรค ประกอบกับสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งปัจจุบันคือสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1 ซึ่งเป็นลูกหลานของโอมิครอน อาการไม่รุนแรง เป็นเหมือนหวัดธรรมดาทั่วไป ซึ่งจุดนี้เองอาจทำให้ประชาชนไม่ได้ระวังจึงแพร่เชื้อต่อกันได้ง่าย สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังไม่นำเชื้อไปสู่กลุ่มเสี่ยง ซึ่งจากข้อมูลผู้เสียชีวิตทุกรายยังพบว่า เป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมีความตระหนักแต่ไม่ตระหนก โดยประชาชนทั่วไปควรเน้นสุขอนามัยส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด หรือที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น ในการเดินทางสาธารณะ ที่โรงพยาบาล และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ และหมั่นล้างมือบ่อยๆ
"หากมีอาการคล้ายหวัด ควรทำการตรวจ ATK และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง 608 หากผลตรวจเป็นบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและพบแพทย์โดยเร็วเมื่อมีอาการหายใจลำบากหรืออื่นๆ เพื่อป้องกันการนำเชื้อไปแพร่สู่กลุ่มเปราะบางในบ้าน สำหรับกลุ่ม 608 หากมีอาการคล้ายหวัด และผลตรวจ ATK เป็นบวก 2 ขีด ควรสวมหน้ากากและรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษา เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการรุนแรง" นพ.ธงชัยกล่าว
ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจติดตามข้อมูลสถานการณ์โรค ทั้งโรคโควิด 19 และโรคติดต่อในระบบเฝ้าระวังต่างๆ ปัจจุบัน กรมควบคุมโรค มีระบบ Digital Disease Surveillance (DDS) ซึ่งเป็นข้อมูลเปิดที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลได้ในเว็บไซต์กรมควบคุมโรค หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสายด่วนของกรมควบคุมโรคได้ที่ 1422