"ชลน่าน" มั่นใจปัญหาเก็บเงินค่ารักษาต่างด้าวไม่ได้กว่าปีละ 2.5 พันล้านบาท จะดีขึ้น หลังพัฒนาระบบ HINT ช่วยดูแลคนไร้สถานะและสิทธิ พร้อมตั้ง 5 ศูนย์เรียนรู้สาธารณสุขชายแดน เร่งทำข้อมูลให้ชัดเพื่อของบประมาณดูแล ปประสานองค์กรระหว่างประเทศสนับสนุน
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เรียกเก็บไม่ได้จากประชากรต่างด้าวและผู้ติดตามในพื้นที่ชายแดนเฉลี่ยราวปีละ 2,500 ล้านบาท ว่า มั่นใจว่าต่อไปจะดีขึ้น เพราะให้ความสำคัญเรื่องการบริการสาธารณสุขชายแดน ทั้งคนในประเทศไทยที่ยังไม่มีสถานะและคนที่อยู่ชายแดนข้างเคียงที่เข้ามารับการดูแลรักษา ในส่วนของคนในไทยที่ไร้สถานะและสิทธิ ขณะนี้มีการพัฒนาระบบ HINT ในการบริหารจัดการกรณีคนที่ยังไม่มีสถานะไร้สิทธิ ดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาสู่กระบวนการ ในการดูสิทธิที่จะได้รับ เมื่อระบบนี้สำเร็จจะเห็นภาพของคนที่มาใช้บริการว่ามีสถานะ มีสิทธิ มีหลักประกันสุขภาพอย่างไร จะช่วยเติมเต็มและนำสู่การแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้ วางโครงสร้างรองรับเรื่องการเรียนรู้เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขชายแดนและพื้นที่เฉพาะ กระทรวงสาธารณสุข โดยจะดำเนินการทั่วประเทศ 5 แห่ง ดำเนินการเปิดแห่งแรกแล้วที่ รพ.แม่สอด จ.ตาก ส่วนที่เหลือจะเปิดศูนย์ที่จ.ระนอง ซึ่งจะเปิดเป็นแห่งที่ 2 ในเร็วๆนี้ รวมถึงที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช (รพร.) ปัว จ.น่าน รพร.สระแก้ว และ จ.อุบลราชธานี
“5 ศูนย์เรียนรู้ทางการแพทย์สาธารณสุขชายแดน ตอบโจทย์ตามภูมิภาค ซึ่งจะมีหลักสูตรการเรียนรู้ เช่น สาธารณสุขชายแดนแม่และเด็ก โรคระบาดชายแดน มีนักศึกษา คนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ และเป็นพื้นฐานความร่วมมือระหว่างนานาประเทศ ในการดูแลประชาการข้ามชาติ โดยมีองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาช่วยดูแล สนับสนุนร่วมกันเรียนรู้และจัดบริการ”นพ.ชลน่านกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวทางนี้จะสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ไทยเรียกเก็บไม่ได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เดิมใช้งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการดูแลประชากรต่างชาติตามแนวชายแดน ต่อไปเมื่อมีการทำเรื่องฐานข้อมูลที่ชัดเจน ในการที่จะของบประมาณมาดูแลกลุ่มนี้ก็มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น งานป้องกันโรค งบประมาณส่งเสริมสุขภาพก็สามารถดึงมาใช้ได้ เป็นการชดเชยเรื่องค่าใช้จ่าย รวมถึง องค์กรระหว่างประเทศก็สนับสนุนงบประมาณด้วย
อย่างที่จ.ตาก ผู้ที่มาจากชายแดนเมียนมา สามารถเบิกค่ารักษาได้ทุกคน จากองค์การกาชาดสากลที่มีงบประมาณสนับสนุน ถ้ามีข้อมูลชัดเจนก็ส่งไปเบิกได้ ก็มาชดเชยเรื่องค่าใช้จ่าย โดยมีการกำหนดตัวเลขค่ารักษาที่จะเบิกได้ไว้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล 60,000 บาท เบิกได้ 80 % ไม่เกิน หรือเกิน 60,000 บาท ก็จะเบิกได้ในอัตราที่กำหนด เป็นต้น
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ชายแดนทั้งหมด 31 จังหวัด การให้บริการเหมือนกัน แต่ชายแดนแต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกันไป ชายแดนฝั่งเมียนมาก็เป็นรูปแบบหนึ่ง ชายแดนฝั่งลาวก็อีกรูปแบบหนึ่ง การแก้ปัญหาและพัฒนาสาธารณสุขชายแดนจึงขึ้นกับบริบทของแต่ละพื้นที่ อย่างรพร.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีรายได้จากผู้ป่วยชาวลาวที่เข้ามารักษาเป็นหลัก เพราะมีกำลังความสามารถที่จะจ่าย ซึ่งก็มีการขยายการการหารือกับท่านทูตลาว ที่จะให้เป็นความร่วมมมือระหว่างรัฐต่อรัฐในการกำหนดสิทธิที่จะสามารถมาใช้รักษาพยาบาลในประเทศไทยได้ เป็นต้น