xs
xsm
sm
md
lg

ปีนี้ร้อนสุดๆ พบดับจาก "ฮีทสโตรก" แล้ว 30 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมควบคุมโรคเตือนปีนี้ร้อนจัด ทำคนตายจากฮีทสโตรกเพิ่มขึ้น เผย 2 เดือน มี.ค. - เม.ย. เจอแล้ว 30 ราย ขณะที่ปี 2566 เจอ 37 ราย ย้ำเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งช่วง 11 โมงถึงบ่าย 3 ดื่มน้ำบ่อยๆ ยิ่งเสียเหงื่อมากให้ดิ่มนำเกลือแร่ เผยอาการเตือนเป็นฮีทสโตรก

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นพ.วีระวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตัวเลขสถานการณ์ล่าสุดของโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก พบว่า เพียง 2 เดือน คือ มี.ค. และ เม.ย. 2567 มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก 30 ราย เมื่อเทียบกับปี 2566 ช่วงอากาศร้อนจัด 4 เดือน มี.ค.-มิ.ย. พบรวม 37 ราย ถือว่าตัวเลขปีนี้ค่อนข้างเยอะ และเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยสัปดาห์นี้อากาศร้อนจัดมาก กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ให้หลีกเลี่ยงอากาศไม่ถ่ายเท และอากาศที่ร้อนจัด ส่วนคนที่แข็งแรงแต่อยู่พื้นที่เสี่ยง คือ ทำงานอากาศร้อนจัด เช่น ทำงานกลางแจ้ง เกษตรกร ทหาร ตำรวจ รปภ. ก็อาจเกิดภาวะฮีทสโตรกได้ คำแนะนำคือ

ลดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วง 11.00 - 15.00 น. ถ้าต้องออกไปข้างนอก ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ทุกชั่วโมง 1-2 ชั่วโมงดื่มประมาณ 2-4 แก้ว ยิ่งเสียเหงื่อมากให้ดื่มน้ำเกลือแร่เพิ่มขึ้น บางคนไปดื่มแอลกอฮอล์ หรือกาแฟมีคาเฟอีน จะทำให้การระบายความร้อนลดน้อยลง ให้หลีกเลี่ยงช่วงอากาศร้อนจัด สวมใส่เสื้อผ้า สีอ่อน เนื่องจากเสื้อผ้าสีเข้ม อย่างเทาเข้ม สีดำ จะดูดซับความร้อน ควรสวมเสื้อผ้าระบายความร้อน โปร่ง จะลดการสะสมความร้อนในร่างกาย

หากออกไปแล้วมีอาการหน้ามืด ใจสั่น ผิวหนังแดง เหงื่อไม่ค่อยออก เป็นอาการเตือนความเสี่ยงฮีทสโตรกรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น เอาคนประสบภัยเข้าพื้นที่ไม่ร้อนจัด มีอากาศเย็น ใช้น้ำเย็น น้ำแข็งประคบ ตามซอกพับ หน้าผาก คลายเสื้อผ้า หากยังมีสติให้ดื่มน้ำเย็น หรือถ้าไม่มีใช้น้ำธรรมดาเพื่อระบายความร้อน หากหมดสติให้ส่ง รพ. โดยยกขาสูงเพื่อให้เลือดไหลกลับมาศีรษะ


กำลังโหลดความคิดเห็น