"ชลน่าน" ลงพื้นที่ "แม่สอด" ติดตามความพร้อมการแพทย์ดูแลผู้หนีภัยสงครามเมียนมา พบบาดเจ็บสะสม 113 ราย ส่วนใหญ่ถูกระเบิด อาวุธปืน เหลือรักษา รพ.แม่สอด 82 คน ผ่าตัดแล้ว 29 ราย รอผ่าตัดอีก 3 ราย แจงประกาศแผนฉุกเฉิน เหตุผู้ป่วยเข้ามาพร้อมกันเกิน 20 คน แต่ปิดได้ใน 3 ชม. จ่อหาศัลยแพทย์ประสาทเสริมทีม
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ รพ.แม่สอด จ.ตาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับผู้หนีภัยสงครามเมียนมา ว่า วันนี้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตาม 2 จุด คือ รพ.แม่สอด เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมของ รพ. ในการดูแลรักษาพยาบาลผู้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้รองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และดูแลเรื่องขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน อีกจุดคือพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ราชการจัดไว้ให้ผู้ประสบภัยมาพักอาศัยชั่วคราว โดยติดตามเรื่องของมิติการเฝ้าระวังป้องกันโรค และสภาพแวดล้อมไม่ให้กระทบต่อสุขภาพ
นพ.ชลน่านกล่าวว่า รพ.แม่สอดมีความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติ โดยเฉพาะภัยสงคราม ที่ผ่านมามีการดูแลผู้ได้รับผลกระทบเป็นระยะ แต่มาเน้นหนักตั้งแต่คืนวันที่ 20 เม.ย. 2567 ที่มีผู้บาดเจ็บจากภัยสงครามเข้ามารักษาพร้อมกันถึง 22 คน จึงจำเป็นที่จะต้องประกาศแผนรองรับฉุกเฉินระดับ 3 หรือระดับรุนแรง คือ มีผู้ป่วยเข้ามาพร้อมกันมากกว่า 20 คนขึ้นไป เพื่อระดมทรัพยากรบุคคลและเครื่องมือต่างๆ มารองรับ ซึ่งเป็นการประกาศแผนรองรับฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขของ รพ. ไม่ได้เป็นการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเราไม่มีอำนาจ
"ตรงนี้ถือเป็นเรื่องปกติเมื่อมีผู้ป่วยเข้ามาจำนวนมากจากอุบัติเหตุหมู่ อุบัติภัยหมู่ ซึ่งสงครามก็ถือเป็นอุบัติภัยหมู่ ก็จะมีการประกาศแผนรองรับอยู่แล้ว โดยหลังประกาศแผนใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก็ยุติแผนได้เลย ส่วนวันที่ 21-22 เม.ย.ก็เป็นการรับผู้ป่วยตามปกติ อย่างวันที่ 21 เม.ย.ก็มีผู้บาดเจ็บเข้ามา 16 คน แต่เป็นการทยอยเดินทางเข้ามารักษา ไม่ได้มาพร้อมกัน จึงไม่จำเป็นต้องประกาศใช้แผน" นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่านกล่าาวว่า ผู้ป่วยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเข้ามารับบริการและยังค้างอยู่ที่นี่ 82 คน ส่วนใหญ่มีลักษณะบาดเจ็บเป็นหลัก รักษาด้านศัลยกรรม จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ผ่าตัดแล้ว 29 ราย รอผ่าตัดอีก 3 ราย เราดูแลแบบไม่แยกฝ่าย ถือเป็นผู้ประสบภัยไม่แยกฝ่ายไหนอย่างไร โดยเมื่อรักษาเสร็จหายออกจาก รพ.ได้ ฝ่ายความมั่นคงก็จะมารับตัวไปดำเนินการดูแลต่อ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก รายงานว่า ภาพรวมมีผู้ป่วยสะสม 113 ราย กระจายตาม รพ.ต่างๆ ทั้ง รพ.อุ้มผาง รพ.ตามตะเข็บชายแดน ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากระเบิดที่เข้ามากระทบ รวมถึงบาดแผลจากอาวุธปืน การดำเนินการระดับจังหวัดจะแบ่งการเตรียมการรองรับไว้ 3 ระดับ คือ ระดับ 1ผู้ป่วยไม่เยอะ เป็นแผนรองรับเฉพาะพื้นที่ รพ. บริหารจัดการจบใน รพ. ระดับ 2 มีผู้ป่วยมากขึ้นต้องระดมทรัพยากรในจังหวัดมาช่วยกัน ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 60 คน และระดับ 3 คือต้องใช้ทรัพยากรโดยรวมจากนอกเขต และต้องเปิด รพ.สนาม ขณะนี้ยังไม่ถึง นี่คือการเตรียมความพร้อม รวมถึงเครื่องมือบุคลากร ห้องผ่าตัดต่างๆ
นพ.ชลน่านกล่าวว่า อีกเรื่องคือ การดูแลผู้อพยพในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ซึ่งล่าสุดมีเหลืออยู่ประมาณ 1,600 คน จาก 3 พันคนที่เข้ามา มีทยอยกลับไปแล้ว เราดูแลมิติสุขภาพตรวจสอบว่ามีสถานะสุขภาพอย่างไร มีการวางระบบประเมินเข้าไปดูแลทางสุขาภิบาลอาหาร น้ำ และเฝ้าระวังโรค เช่น มุ้ง ยาต่างๆ ก้จะเตรียมพร้อมทั้งหมด
ถามว่าสถานการณ์ยังไม่จบง่ายๆ อาจมีการอพยพเข้ามาเพิ่ม นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราไม่ประมาทว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เรามีมาตรการขั้นสูงสุดที่จะรองรับ ไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีเหตุการณ์เกิดถึงระดับ 3 เราก็ประกาศแผนระดับ 3 คือเราพร้อมรองรับ ในมุมของการเมืองเรื่องสิทธิมนุษยชน มิติสุขภาพ ความเป็นอันตราย ถ้าไม่เกิดจะดีที่สุด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงต้องช่วยกัน ประเทศเราในมุมของการเมืองก้ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด การแพทยืและสาธารณสุขก็ดูแลสุขภาพเป็นหลัก
ถามว่าต้องมีทรัพยากรอะไรเข้ามาเสริม รพ.แม่สอดอีกหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า แน่นอน เราต้องดูตลอด ขณะนี้เราประสบปัญหาเรื่องหมอศัลยศาสตร์ระบบประสาท ปลัด สธ.ก็ให้ความสำคัญ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ รพ.แม่สอดควรต้องมี แต่ขณะที่ไม่มี ปลัด สธ.สั่งการกับผู้ตรวจราชการ สธ.แล้วว่าจะต้องหาวิธีการทำอย่างไรก็ได้ให้มีศัลยศาสตร์ประสาทเข้ามาดำเนินการ เพราะมีความจำเป็น อย่างกรณีที่เกิดขึ้นต้องส่งต่อผู้ป่วยไปที่ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 1 ราย เพื่อดูเรื่องระบบสมอง
ถามย้ำว่าขณะนี้สถานการณ์อยู่ในระดับใด นพ.ชลน่านกล่าวว่า ถ้าใน รพ.อยู่ในระดับ 3 เพราะเกิน 20 คน แต่ว่าสามารถจัดการได้เร็วมาก 2-3 ชั่วโมงก็ปิดแผนได้เลย ตอนนี้ใช้แผนปกติไม่ได้ประกาศแผน ไม่ได้วิกฤต ถ้าทยอยเข้ามาเราก็รองรับได้ บริหารจัดการใน รพ.ได้เลย ส่วนกรณีบาดแผลจากสู้รบศักยภาพ รพ.เราพร้อม ในภาวะฉุกเฉิน รพ.แม่สอดสามารถเปิดห้องผ่าตัดได้ถึง 4 ห้อง