กรมอนามัย สั่งทำลาย "น้ำแข็ง" หลังพบด่างสูง จากเหตุแอมโมเนียรั่วในโรงงานผลิต ส่วนน้ำแข็งที่นำมาจากโรงผลิตอื่นยังผ่านมาตรฐาน ขณะที่นำฉีดป้องกันก๊าซรั่ว เข้าระบบบำบัด ไม่รั่วไหลภายนอก ไม่ปนเปื้อนระบบประปา
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วในโรงงานน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า ก๊าซแอมโมเนียเป็นก๊าซพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยในรัศมีโดยรอบในระยะ 3 กิโลเมตร จากข้อเท็จจริงพบประชาชนได้รับผลกระทบจากการสัมผัส สูดดมก๊าซแอมโมเนีย เกิดอาการแสบตา แสบคอ หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แสบตารุนแรง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมให้การช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล และนำผู้ป่วยได้รับผลกระทบทั้งหมดส่ง รพ.ในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถควบคุมการรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนียได้แล้ว
นพ.อรรถพล กล่าวว่า กรมอนามัยได้ส่งทีมปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (ทีม SEhRT) ของศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ลงพื้นที่ ประเมินความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสุขภาพของประชาชน พบว่า โรงน้ำแข็งแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข จึงประสานให้หน่วยงานท้องถิ่นที่รับผิดชอบบังคับใช้กฎหมายโดยสั่งการให้ผู้ประกอบกิจการ ปรับปรุงด้านสุขลักษณะ ความปลอดภัย และอนามัยสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐาน ช่วงเกิดเหตุแอมโมเนียรั่วไหล มีการเก็บตัวอย่างน้ำแข็งที่ผลิตแล้วไปตรวจสอบ พบค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ประมาณ 9 ซึ่งมีความเป็นด่างสูง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งโรงงานให้ทำลายน้ำแข็งดังกล่าวทั้งหมดห้ามนำมาจำหน่าย โดยโรงงานดังกล่าวได้นำน้ำแข็งจากแหล่งผลิตอื่นมาจำหน่ายแทนแล้ว และเพื่อเป็นการยืนยันผล ทีม SEhRT มีการตรวจสอบค่าความเป็นกรด-ด่างในน้ำแข็งที่โรงงานนำมาจากโรงผลิตอื่นเพื่อนำมาจำหน่าย พบค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ประมาณ 8 ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานน้ำบริโภค
"โรงงานดังกล่าวได้หยุดผลิตน้ำแข็งเป็นการชั่วคราว จนกว่าทำการปรับปรุงคุณภาพน้ำ และตรวจสอบระบบการผลิตน้ำแข็งให้เป็นไปตามมาตรฐาน ในช่วงที่ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล ทีมเจ้าหน้าที่ได้ใช้การสเปรย์น้ำเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของก๊าซพิษออกสู่ภายนอก น้ำที่ใช้สเปรย์ดังกล่าวจะเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงาน จึงไม่มีการปนเปื้อนของสารแอมโมเนียที่ปนมากับน้ำ ไหลลงในแหล่งน้ำสาธารณะ ระบบประปาชุมชน หรือประปาหมู่บ้าน ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ในการใช้น้ำอุปโภคบริโภคในครัวเรือนอย่างปลอดภัย" นพ.อรรถพลกล่าว
นพ.อรรถพลกล่าวว่า ทีม SEhRT ได้สนับสนุนหน้ากาก N95 สำหรับแจกให้แก่ประชาชนที่อาศัยโดยรอบ เพื่อใช้สำหรับป้องกันตนเอง สำหรับประชาชนขอให้มีการดำเนินการติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง หากมีการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่หรือให้มีการอพยพ ต้องปฏิบัติการคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงและผลกระทบทางสุขภาพ หลังการอพยพไปยังที่ปลอดภัย เมื่อกลับเข้าบ้านให้เปิดประตู หน้าต่างระบายอากาศทันทีพร้อมทำความสะอาดบ้านเรือน เฟอร์นิเจอร์ ทันที เพื่อลดความเสี่ยงทางสุขภาพ สังเกตความผิดปกติ หรืออาการต่าง ๆ ของตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง หากมีอาการแสบคอ หายใจไม่ออก และแสบตา ให้รีบแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ หรือไปพบแพทย์ทันที