กรมสุขภาพจิต เตือนระวัง “ภาวะซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว” ช่วงสงกรานต์ หรือ Post-Vacation Depression เป็นอารมณ์ลบหลังหยุดยาวหลายวัน ยันไม่ใช่โรคจิตเวช แต่มีอาการเศร้า หดหู่ เหนื่อย ไม่อยากทำอะไร เหมือนคนหมดไฟ แนะ 6 วิธีรับมือ
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ช่วงหยุดยาวสงกรานต์นี้ ระวังอาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว ซึ่งในทางจิตวิทยา Post-Vacation Depression หรือ Post-vacation Blues หมายถึง อารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นหลังหยุดยาวติดต่อกันหลายหลายวัน ทำให้เกิดอารมณ์เศร้าเบื่อหน่ายไม่กระตือรือร้น ทำให้มีอาการคล้ายภาวะหมดไฟหรือรบกวนการทำงานได้ อย่างไรก็ตาม อาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว ไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่เป็นสภาวะอารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นหลังวันหยุดยาว ซึ่งโดยปกติแล้วจะสามารถหายไปเองใน 2 – 3 วัน สำหรับบางคนอาการอาจอยู่ยาวถึง 2 – 3 สัปดาห์ อาการหลักๆ ก็คือ อารมณ์เศร้า หดหู่ เหนื่อย ไม่อยากทำอะไร รู้สึกเหมือนคนหมดไฟ และไม่กระตือรือร้น
นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตจึงขอแนะนำ 6 วิธีเพื่อรับมือกับอาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว โดยสามารถทำได้ด้วยตนเอง ดังนี้
1. หาแรงจูงใจในการไปทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายความก้าวหน้าในการทำงาน เช่น การได้ขึ้นเงินเดือน โบนัส เป็นต้น หรือหาใครบางคนที่ทำให้การทำงานของมีความหมาย เช่น ลูกค้า หรือผู้มารับบริการ หากได้พบหรือทำให้ผู้นั้นรู้สึกดีขึ้น นั่นก็ทำให้การทำงานมีความหมาย และทำให้อยากไปทำงานมากยิ่งขึ้น
2. การสร้างคุณค่าในการทำงาน โดยการมองหาข้อดีของการทำงาน เช่น มองหาว่าใครได้รับประโยชน์จากการทำงานหรือสิ่งที่สามารถทำประโยชน์ต่อคนอื่น หรืองานที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างไร เช่น มีทักษะเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น มีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น มีความก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นเป็นต้น
3. อยู่กับปัจจุบัน หากการติดอยู่ในอดีต (การคิดถึงช่วงวันหยุดยาว) ทำให้เป็นทุกข์ และอนาคต (วันหยุดยาวรอบต่อไป) ก็ยังมาไม่ถึง และไม่แน่ไม่นอน ดังนั้นจึงควรอยู่กับปัจจุบัน วางแผนการทำงานแบบวันต่อวัน โดยการจดลิสต์รายการที่ต้องทำในแต่ละวัน แล้วจะเห็นเหตุผลที่ต้องไปทำงานในแต่ละวัน ซึ่งการทำลิสต์นี้นอกจากจะทำให้รู้ว่ามีอะไรที่ต้องทำบ้างแล้ว ยังทำให้เห้นความก้าวหน้าในการทำงานของอีกด้วยว่า ทำอะไรเสร็จไปบ้างแล้ว
4. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน หากการทำงานในรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำซากจำเจ ทำให้เบื่อการทำงาน ก็ลองเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้สร้างสรรค์มากขึ้น ได้ท้าทายตัวเองแล้วยังทำให้รู้สึกสนุกกับการทำงาน และเกิดความคิดใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย
5. หาเพื่อนรู้ใจและทีมในการทำงาน หากการทำงานคนเดียวมันเหงา พาใจให้เฉาก็ลองหาเพื่อนคู่หูในการทำงาน หรือสร้างทีมเพื่อทำงาน เพราะการทำงานเป็นคู่หรือเป็นทีมนั้นนอกจากจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น สมบูรณ์แบบขึ้นมีประสิทธิภาพที่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ยังลดโอกาสผิดพลาดในการทำงาน มีความสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น และสนุกกับการทำงานมากขึ้นด้วย
6. วางแผนเที่ยวในวันหยุดครั้งต่อไป และเทคนิคในการลดอาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว ซึ่งการวางแผนเที่ยวในวันหยุดยาวครั้งต่อไป ทำให้เกิดความหวังและรอคอยวันหยุดครั้งต่อไป จะทำให้เกิดความรู้สึกกระชุ่มกระชวย มีไฟในการเคลียร์งานให้เสร็จอย่างไว และมีใจที่สดใสเพื่อรอไปเที่ยวในวันหยุดครั้งต่อไป
"แม้อาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาวจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่รุนแรง แต่ส่งผลอย่างมากต่อทัศนคติและความรู้สึกที่มีต่อการทำงานและประสิทธิภาพต่อการทำงาน หากปล่อยให้มีอาการซึมเศร้า เบื่อหน่ายต่อการทำงานเป็นเวลานาน ก็จะทำส่งผลกระทบต่อภาวะหมดไฟและความก้าวหน้าในการทำงานจึงควรดูแลจิตใจตนเองรับมือกับภาวะนี้อย่างเข้าใจรวม รวมทั้งใช้เทคนิคการดูแลสุขภาพจิตดังกล่าวก็สามารถสร้างแรงจูงใจในการทำงานและทำให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้มากขึ้น" นพ.พงศ์เกษมกล่าว