บอร์ดระบบสุขภาพปฐมภูมิ เห็นชอบผลิตหมอเวชศาสตร์ครอบครัว 3 รุ่น รุ่นละ 92 คน วงเงิน 288 ล้านบาท เพิ่มก้าวหน้าขึ้นระดับเชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิ จูงใจทำงานในระบบ เร่งจัดทำบัญชีรายชื่อ พัฒนาระบบขึ้นทะเบียนประชาชน มีหมอครอบครัวดูแลให้แล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิชุดปัจจุบัน ได้หมดวาระแล้วแต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะมีการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ โดยมีกองสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ ที่ได้รับการยกฐานะขึ้นมาจากสำนักสนับสนุนระบบปฐมภูมิ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานการดำเนินงาน ในการประชุมคณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงมีการติดตามความคืบหน้าการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ และผลการขับเคลื่อนงานภายใต้ พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิฯ เพื่อเตรียมส่งมอบงานให้คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิชุดต่อไป โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 4 เรื่อง คือ
1.โครงการผลิตแพทย์เพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชนระดับปฐมภูมิ ของสถาบันพระบรมราชชนก วงเงินงบประมาณ 288,144,000 บาท เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เป็นหลักสูตรแพทย์ที่เน้นแนวทางเวชศาสตร์ครอบครัว 6 ปี ประจำปีการศึกษา 2567-2569 รวม 3 รุ่น รุ่นละ 92 คน อย่างน้อย 1 คนต่อ 1 จังหวัด เพื่อกลับไปปฏิบัติงานที่สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี ในพื้นที่ภูมิลำเนา
2.แนวทางความก้าวหน้าของแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวในการขึ้นสู่ตำแหน่งนายแพทย์ระดับเชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิ และได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอการขอรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่าย โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาแนวทางการปรับระบบการจ่ายงบประมาณด้านบริการปฐมภูมิต่อหน่วยบริการในลักษณะเหมาจ่ายที่มียอดงบประมาณชัดเจนแยกจากการบริการโดยโรงพยาบาล
3.เห็นชอบในร่างประกาศคณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ เรื่อง การกำหนดรายการของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ และการรับ การจ่าย และการเก็บรักษาเงินค่าใช้จ่าย และการเรียกคืนเงินค่าใช้จ่าย พร้อมจัดส่งร่างประกาศฯ ขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามต่อไป
และ 4.การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้รับบริการสุขภาพปฐมภูมิ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิฯ และเร่งพัฒนาระบบการขึ้นทะเบียนประชาชนโดยมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวดูแลให้แล้วเสร็จ และรายงานความก้าวหน้าในการประชุมครั้งต่อไป