เครือข่ายควบคุมยาสูบ 8 องค์กร ทำจดหมายเปิดผนึกขอบคุณ "เศรษฐา" นายกฯ ไทยคนแรกออกสื่อสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปราม "บุหรี่ไฟฟ้า" อย่างเด็ดขาด หลังพบรุกคืบมุ่งเป้านักเรียน-วัยรุ่น ทำการตลาดดึงดูดใจผ่าน Toy Pod พร้อมหนุน สธ.-ศธ.-อว. เร่งสร้างความตระหนักรู้พิษภัย หวังทุกหน่วยงานลงมือจริงจัง เหตุที่ผ่านมายังไม่บังคับใช้กฎหมายจริงจัง
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีข้อสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปราบปราม "บุหรี่ไฟฟ้า" อย่างเด็ดขาด ซึ่งปัจจุบันกำลังแพร่ระบาดในสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียนและวัยรุ่น ทั้งที่มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว โดยให้จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าและผู้จำหน่ายอย่างจริงจังและเด็ดขาด บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด กำหนดมาตรการลงโทษกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ มีมาตรการตรวจตราที่เข้มงวด โดยเฉพาะในสถานศึกษาและการจำหน่ายและใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน รวมถึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมกันออกมาตรการป้องกัน เช่น การรณรงค์เรื่องโทษของ บุหรี่ไฟฟ้า การสร้างความตระหนักรู้ถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า
“เครือข่ายควบคุมยาสูบ 8 องค์กร มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกฯ มีข้อสั่งการดังกล่าว จึงได้ร่วมกันทำจดหมายเปิดผนึก "ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สั่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเด็ดขาด" ลงวันที่ 11 เมษายน 2567 เพื่อแสดงความขอบคุณ เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ออกสื่อสาธารณะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “จริงจัง เด็ดขาด” ในการแก้ปัญหาการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ที่รุกคืบเข้าไปถึงเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาทั่วประเทศ” ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าว
ด้าน รศ.สุปาณี เสนาดิสัย ประธานเครือข่ายพยาบาลเพื่อการควบคุมยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขาย ยังไม่ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อเนื่อง ปล่อยให้มีการเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างโจ่งแจ้งใจกลางเมือง รวมทั้งการขายออนไลน์ กลายเป็นเรื่องตลก ขบขัน ทำลายภาพพจน์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ ขณะที่หน่วยงานที่ดูแลเด็กนักเรียนในโรงเรียนก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้มีการให้ความรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าต่อเด็กนักเรียนอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามีการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ในลักษณะของตัวการ์ตูนหรือ Toy Pod เพื่อหวังดึงดูดใจให้ซื้อ จึงหวังว่าข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีต่อหน่วยงานต่างๆ ครั้งนี้ จะได้รับการตอบสนอง และนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำแบบไฟไหม้ฟาง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หน่วยงานที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ จะเข้าข่ายว่าเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรมที่ปล่อยให้ลูกหลานของเรามีความเสี่ยงด้านสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า
ทั้งนี้ เครือข่ายควบคุมยาสูบ 8 องค์กร ประกอบด้วย สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ เครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบ เครือข่ายพยาบาลเพื่อการควบคุมยาสูบแห่งประเทศไทย และศูนย์พัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านการควบคุมยาสูบ