"ชลน่าน" รับข้อเสนอ ส.ว.ปมร้องแก้ปัญหาระบบเบิกจ่าย สปสช. ทำเงิน รพ.ติดลบ เผยปรับใช้ FDH คลังข้อมูลกลางเบิกจ่าย ส่วนหนี้ที่ติดพันกันให้ระงับเรียกเงิน เผย 1 เดือนปรับระบบเบิกจ่ายคลินิกชุมชนอบอุ่น ยังมีปัญหา "ใบส่งตัว" ผู้ป่วยบัตรทอง กทม. สั่ง สปสช.สื่อสารอย่าให้กระทบคนไข้ ไม่กังวลกระทบ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ลั่นระบบสมบูรณ์ ต.ค.นี้เชื่อมโยงพื้นที่ กทม. หมดปัญหาใบส่งตัว
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุม ส.ว. ที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา ขอให้มีการแก้ปัญหาระบบเบิกจ่ายของ สปสช.ที่ส่งผลกระทบต่อ รพ.สังกัด สธ. ว่า เรามีคณะทำงานดูแลเรื่องนี้ระหว่าง สธ.และ สปสช. แต่หลังจากที่เรารับข้อเสนอมาจากที่ประชุม ส.ว. เราจะนำเรื่องนั้นมาพิจารณาในประเด็นที่เป็นปัญหาหรือข้อขัดข้องอยู่ เราต้องยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากในเชิงระบบ เช่น ระบบที่เรายกระดับจาก 30 บาทรักษาทุกโรคมาเป็นรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เราพัฒนาระบบเบิกจ่าย Financial Data Hub (FDH) เป็นคลังของมูลกลางเบิกจ่ายด้านการเงินก็จะมีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างมาก วิธีการต่างๆ อาจต้องมาพูดคุยกัน อันไหนเหมาะสมที่สุด
ถามถึงกรณีที่มีการติดหนี้อยู่ราวๆ 2 พันล้านบาท เคลียร์แล้วหรือไม่ว่าสรุปใครติดหนี้ใคร ระหว่าง สปสช.กับ รพ. นพ.ชลน่านกล่าวว่า มันเป็นภาระหนี้ทางบัญชี มีรายละเอียดที่ต้องไปดู ในเชิงนโยบายเราจะเข้าไปดูรายละเอียดว่าวิธีคิดคำนวณหน่วยน้ำหนัก หรือภาระงานที่มาใช้เป็นฐานคำนวณถูกต้องเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เพราะเวลาจ่ายเขาใช้ตัวนี้กำหนด โดยน้ำหนักสัมพัทธ์ในการทำงาน กับหน่วยน้ำหนักค่ากลางที่ตั้งไว้ อาจจะไม่สอดคล้องกันก็จะไปดูให้ ขณะนี้ให้ยุติหรือระงับการเรียกเงินและไปดูรายละเอียด ก็จะหาวิธีการดูแล
ถามต่อถึงกรณีผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทองพื้นที่ กทม.ที่ยังได้รับผลกระทบเรื่องการใช้ใบส่งตัวจากคลินิกชุมชนอบอุ่นไป รพ. จากการปรับแนวทางเบิกจ่ายที่ดำเนินการมาแล้ว 1 เดือน ก็ยังมีปัญหาอยู่ ต้องกำชับให้ดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านต้องยอมรับว่ามีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องระบบการส่งต่อ เพราะหลังปรับระบบมาเป็นลักษณะของการจ่ายตามเหมาจ่ายรายหัว บวกกับเรื่องจ่ายตามรายบริการ Fee Schedule โมเดล 5 มันจะทำให้หน่วยบริการเริ่มที่จะดูแลคนไข้มากขึ้น บางเรื่องไม่ยอมส่งตัว อาจจะต้องมีการพูดคุยวางระบบตรงนี้ เราเตรียมการที่จะแก้ปัญหาให้แล้ว
"เราเน้นหนักเลยว่าต้องไม่ให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบ สปสช.ก็ไปทำความเข้าใจแล้ว โดยเฉพาะผู้ป่วยรายเดิมที่ส่งตัว 6 เดือนครั้งหนึ่งเราอาจจะต้องพิจารณาให้เขา เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องส่งตัว" นพ.ชลน่านกล่าว
ถามว่าแต่ใน กทม. รพ.ที่ไม่ใช่สังกัด สธ. ยังยึดเรื่องใบส่งตัว แต่นโยบายยกระดับเราจะไม่ใชใบส่งตัว นพ.ชลน่านกล่าวว่า นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ถ้าระบบสมบูรณ์แล้วไม่ต้องใช้ใบส่งตัวเลย เพาะตัวระบบส่งข้อมูลผ่านอิเล็กทรอนิกส์ คนไข้ไปตรงไหนอย่างไรก็เรียกข้อมูลมาดูได้ ถ้าจำเป็นที่แพทย์จะต้องส่งต่อกันก็สามารถส่งข้อมูลต่อกันได้อยู่แล้ว นั่นคือเชิงระบบที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อตัดปัญหาเรื่องนี้ แต่ว่าขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน กทม.เขาจะเริ่มของเขาเองเข้าใจว่าเดือนเม.ย.นี้ ในระบบ Health Infornation System (HIS) หลังบ้านเริ่มที่จะเริ่มทำแล้ว และ ต.ค.จะเข้าสู่ระบบการเชื่อมโยงของเราทั้งหมด
ถามย้ำว่าแล้วระหว่างนี้ รพ.สังกัดของทหารหรือตำรวจที่ยังให้ใช้ใบส่งตัว จะต้องมีการหารือทำความเข้าใจด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า คงต้องดูเป็นกรณีๆ ไป สปสช.ก้ต้องไปทำความเข้าใจกับ รพ.เหล่านี้ และแนวทางคลินิกชุมชนอบอุ่นเองก็ต้องดูในรายละเอียด ต้องดูทุกจุดที่เป็นปัญหา ต้องเอาคนไข้เป็นศูนย์กลาง อำนวยความสะดวกให้เขาโดยไม่ผิดกฎและระเบียบ บางอย่างมีความจำเป็นก็ต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะกระทบกับความเชื่อมั่นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะยิ่งเราทำระบบได้สมบูรณ์จะพิสูจน์ให้เห็นเองว่า ระบบส่งต่อไม่มีความจำเป็นต้องเขียนใบส่งตัวอีกแล้ว
ถามต่อว่าคลินิก รพ. บางส่วนอาจกังวลเรื่องงบเบิกจ่ายการส่งต่อ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่กังวล เพราะหนึ่งในสิทธิบัตรทอง มีวิธีการเบิกจ่ายอยู่แล้ว ที่แต่ละสถานบริการก็ได้รับค่าติบแทนค่าใช้จ่ายตามสิทธิพวกนั้นได้อยู่แล้ว ไม่กังวล