xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวิธีใช้ "ตำรับอดยาบ้า" ช่วยคุมอาการอยากยา จนหยุดยาได้ใน 30 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมแพทย์แผนไทย เผยผลใช้ "ตำรับอดยาบ้า" รูปแบบยาเม็ดฟู่ในชุมชน 407 คน ผลรักษาน่าพอใจ ช่วยควบคุมอาการอยากยา  เผยวิธีใช้ รับชนาดไม่ควรเกิน 5 เม็ด/วัน กินต่อเนื่อง 14 วัน ปรับลดขนาดยาลงทุกระยะ 1-2 วัน ตามการตอบสนองจนหยุดยา ใน 30 วัน

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมฯ เปิดให้บริการ คลินิกบำบัดยาเสพติดด้วยแพทย์แผนไทยนำร่องแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ยศเส กทม. รพ.การแพทย์แผนไทยฯ จ.อุดรธานี  และ รพ.การแพทย์แผนไทยฯ จ.พัทลุง กระบวนการรักษาผู้ติดยาเสพติด จะเน้นการใช้ยาแผนไทยและสมุนไพร ในการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วย กลุ่มล้างพิษ เช่น ยารางจืด ชาสมุนไพรย่านางแดง กลุ่มยาปรับธาตุ เช่น ยาตรีผลา ยาบำรุง เช่น ยาขมิ้นชัน ยาหอมนวโกฐ แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น ยาแก้ลมแก้เส้น นอนไม่หลับ ตำรับยาศุขไสยาศน์ หรือ ตำรับยาการุณย์โอสถ เป็นต้น

จากข้อมูลสถิติการรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติด ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ล่าสุด กรมฯได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บำบัด รักษา ฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง (CBTx) จำนวน 35 ชุมชน ทั้งในเขต กทม.และต่างจังหวัด เป็นการดำเนินงานในลักษณะการลงชุมชนให้ความรู้ ออกหน่วยตรวจรักษา ซึ่งมีทั้งการจ่ายยาสมุนไพรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการทำหัตถการทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พบว่า จากสถิติผู้ป่วยยาเสพติดที่ได้รับ "ยาอดยาบ้า" จำนวน 407 คน ประกอบด้วย เพศชาย 378 คน และ เพศหญิง 29 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง พบว่า  ผู้ป่วยส่วนใหญ่กว่า 90 % ติดยาเสพติดประเภทยากลุ่มแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า

ด้าน ดร.ภก.ปรีชา หนูทิม ผอ.รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กล่าวว่า  ผู้ติดยาบ้าที่มีอาการรุนแรง แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ จะใช้ตำรับยาอดยาบ้า ซึ่งมีรูปแบบเป็นยาเม็ดฟู่ ผลิตโดย กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร  มีสรรพคุณใช้ลดอาการอยากยาในผู้ป่วยเสพติดยา โดยเฉพาะยาบ้า วิธีใช้ ให้เตรียมยา 1 เม็ด ละลายในน้ำ 150 – 250 มิลลิลิตร รับประทาน วันละ 1-2 ครั้ง หรือตามที่แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์สั่ง เพื่อควบคุมอาการอยากยา โดยขนาดที่ได้รับต่อวันไม่ควรเกิน 5 เม็ด/วัน รับประทานต่อเนื่อง 14 วัน และค่อยๆปรับลดขนาดยาลงทุกระยะ 1-2 วันตามการตอบสนองของผู้ป่วยจนหยุดยา ภายใน 30 วัน ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยตำรับยาดังกล่าวมีประสิทธิผลตอบสนองในการรักษาเป็นที่น่าพอใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น