"ชลน่าน" เผยร่าง พ.ร.บ.ข้าราชการ สธ.ใกล้แล้วเสร็จ หวังแยกตัวออกจาก ก.พ. หากสำเร็จถือเป็นผลงาชิ้นโบว์แดง รบ.เพื่อไทย หลังปัญหาบุคลากร-อัตรากำลังค้างคามานาน ขออย่าไปคิดว่าลดอำนาจ ก.พ. ต้องคิดว่าปรับโครงสร้างให้เอื้อต่อการดูแลประชาชน
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการทำร่างกฎหมายเพื่อแยกตัวออกจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( ก.พ.) ว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องแผนพัฒนากำลังคนภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องการเตรียมร่างกฎหมายเพื่อขอแยกตัวออกจาก ก.พ. เรียกว่า ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการสาธารณสุขและบุคลากรสาธารณสุข พ.ศ. ... มีการประชุมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่างกฎหมายดังกล่าวใกล้จะแล้วเสร็จ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2568
ถามว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ยึดตามร่างเดิมที่เคยทำกันมาก่อนหรือยกร่างใหม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนยังไม่เคยเห็นร่างเก่า แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียต้องเริ่มใหม่ ปรับปรุงให้สอดคล้องกับปัจจุบัน เนื่องจากมีหลายเรื่อง
ถามว่า หากสามารถแยกตัวออกจาก ก.พ.ได้สำเร็จ ถือเป็นงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลเพื่อไทยได้หรือไม่ เพราะปัญหาบุคลากรสาธารณสุขและอัตรากำลังค้างคามานานมาก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากรัฐบาลเห็นชอบจะเป็นผลงานสำคัญ เนื่องจากเรื่องกำลังคน หากยังสังกัด ก.พ. ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของ ก.พ. ไม่ว่าจะต้องดำเนินการลดกำลังคนภาครัฐ แผนลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องทำทั้งหมด แต่หาก สธ.มีกฎหมายในการบริหารงานบุคคลเป็นการเฉพาะ เราจะสามารถดูความจำเป็นเรื่องของกำลังคน แต่ก็ต้องยึดความจำเป็นค่าใช้จ่ายของภาครัฐเป็นหลักเช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะทำตามอำเภอใจ เพียงแต่เราจะวางแนวทางอัตรากำลังให้สอดคล้องกับภารกิจงานได้
ถามว่าหากแยกตัวออกมาได้ ภาพรวมสาธารณสุขของประเทศจะดีขึ้นหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราพยายามให้มีการยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากหากเป็นระบบบริการแบบเดิม ก็จะเป็นแพทเทิร์นที่อาจไม่ทันการณ์ กลไกการให้บริการประชาชนจะต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มากเกินไป ดังนั้น หากเราสามารถลดข้อจำกัด ลดโครงสร้างการทำงาน เพื่อให้ทำงาน ให้บริการประชาชนอย่างรวดเร็วขึ้น เช่น ในพื้นที่กระทรวงฯ มี 12 เขตบริการ หากเราวางองค์กรมารองรับหน่วยบริการนั้นๆ ให้เทียบเท่าส่วนกลางได้ก็จะคล่องตัวขึ้น เป็นการกระจายงานให้สอดรับการบริการประชาชนในพื้นที่นั้นๆ เพราะแต่ละพื้นที่การดูแลสุขภาพไม่เหมือนกัน แค่จังหวัดเดียวยังไม่เหมือนกัน ซึ่งตนพยายามยกตัวอย่างว่า ไม่ควรตัดเสื้อโหล อย่างจังหวัดตาก 4 อำเภอหน้าเขา กับ 5 อำเภอหลังเขาจะใช้มาตราการเดียวกันไม่ได้ ขณะนี้ก็พยายามแก้ปัญหาด้วยมีนโยบายการดูแลพื้นที่เฉพาะขึ้นมาภายใต้ข้อจำกัดที่มี เพื่อให้ดูแลประชาชนให้ได้ครอบคลุมมากที่สุด
“การร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว สิ่งสำคัญเราต้องพูดคุยกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ก.พ. ซึ่งที่ผ่านมาก็พูดคุยกันมาเรื่อยๆ แนวโน้มถือว่าดี มีความเป็นไปได้” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามกรณีมีข้อกังวลในบุคลากร สธ.ว่าจำนวนคนมีมากกว่า 4-5 แสนคน จากที่ ก.พ.ดูแลถึง 9 แสนคน จะเป็นการลดอำนาจหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อย่าไปคิดเช่นนั้น และเชื่อว่า ก.พ.ไม่ได้คิดมุมนั้น เพราะสิ่งสำคัญต้องคิดว่า จะทำอย่างไรให้เอื้อต่อระบบการดูแลประชาชนจริงๆ มากกว่า
ถามต่อว่าถือเป็นเรื่องท้าทายหรือไม่ เพราะทุกยุคที่เสนอจะมาติดปัญหาตรงเสนอร่างกฎหมายตลอดจนไม่สามารถแยกตัวออกมาได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ท้าทาย เพราะเป็นการปรับโครงสร้างที่ใหญ่ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างต้องอาศัยหลายภาคส่วน ทั้งการมีส่วนร่วม นโยบายต้องชัดเจน ซึ่งเมื่อทำกฎหมายก็ต้องผ่านสภาฯ เห็นชอบด้วย