กรมอนามัย ร่วม กปภ.ตรวจสอบ หลังพบ "ไรแดง" ในน้ำประปาเพชรบูรณ์ เร่งแก้จุดรั่วซ่อมแซมท่อชำรุด ป้องกันไรแดงค้างท่อ ย้ำไม่เป็นพาหะนำโรค แต่อาจทำให้แพ้ได้
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีประชาชนพบสิ่งแปลกปลอมรูปร่างคล้ายหนอน สีแดง ปลายหางสองแฉก ในน้ำประปา ของพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลบึงสามพัน อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลเรื่องความสะอาด และไม่กล้าใช้น้ำประปา อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน และกังวลว่าบุคคลในครอบครัว บุตรหลาน จะเกิดอันตราย
เบื้องต้นกรมอนามัย ตรวจสอบข้อมูล พบว่า สิ่งแปลกปลอมดังกล่าว คือ หนอนแดงหรือไรแดง ซึ่งเป็นตัวอ่อนของริ้นน้ำจืด มีลักษณะคล้ายยุงเมื่อโตเต็มวัย หนอนแดงไม่เป็นอันตรายหรือไม่เป็นพาหะนำโรค แต่อาจทำให้เกิดการแพ้สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือผิวหนังไวต่อสิ่งแปลกปลอม การพบหนอนแดงปนเปื้อนในน้ำประปาพื้นที่ดังกล่าว บ่งชี้ว่ากระบวนการผลิตน้ำประปา ระบบฆ่าเชื้อโรคในน้ำประปา หรือระบบท่อน้ำประปาอาจมีปัญหาจนทำให้ริ้นน้ำจืดสามารถเข้าไปวางไข่จนเกิดเป็นหนอนแดงได้
นพ.อรรถพล กล่าวว่า ทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบึงสามพัน โรงพยาบาลบึงสามพัน และ สำนักงานการประปาหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่สำรวจ พบว่า สาเหตุที่พบหนอนแดงในน้ำประปา อาจเกิดจากก่อนหน้านี้ ท่อประปาในระบบชำรุดเสียหาย ทำให้มีริ้นน้ำจืดเข้าไปวางไข่ และเป็นหนอนแดงออกมากับน้ำประปาในครัวเรือน ประกอบกับปัญหาในขั้นตอนการผลิตน้ำประปาบางกระบวนการที่มีโอกาสเสี่ยงให้ตัวริ้นน้ำจืดมาวางไข่ได้ จึงต้องมีการตรวจสอบทุกขั้นตอนในการผลิตอย่างเข้มงวดอีกครั้ง การประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่จึงส่งทีมเจ้าหน้าที่ดำเนินการซ่อมแซมท่อที่ชำรุดเสียหาย และระบายตะกอนในเส้นท่อทุกเส้นทั่วเขตอำเภอบึงสามพันแล้ว เพื่อให้ท่อประปาสะอาดไม่มีสิ่งปนเปื้อน
การประปาส่วนภูมิภาคเขต 10 งานควบคุมคุณภาพน้ำที่ 2 ทำการเก็บตัวอย่างน้ำประปาเพื่อวิเคราะห์คุณภาพน้ำตามมาตรฐาน พบว่า ปัจจุบันน้ำประปามีความปลอดภัย สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน กำหนดให้มีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาในชุมชน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้น้ำของประชาชน
ล่าสุดทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ลงพื้นที่เพื่อตรวจทานกระบวนการผลิตน้ำประปาในแต่ละขั้นตอนอีกครั้ง แต่ยังพบหนอนแดงออกมากับน้ำประปา จึงมีข้อเสนอให้สำนักงานประปาหนองไผ่ และการประปาส่วนภูมิภาคเขต 10 เร่งตรวจสอบระบบการผลิตน้ำประปาทุกขั้นตอน โดยทำการตรวจสอบตั้งแต่การควบคุมคุณภาพน้ำที่ใช้ทำน้ำประปา การตกตะกอน การกรอง การฆ่าเชื้อโรค และถังเก็บน้ำใส ตลอดจนสำรวจเส้นท่อเพื่อจัดการปัญหาหนอนแดงค้าง ในระบบท่อประปา ตรวจสอบเส้นท่อ รอยแตก รั่ว ของท่อจ่ายน้ำประปา มาตรวัดน้ำ และระบบน้ำประปาในครัวเรือน
รวมทั้ง มอบหมายทีม SEhRT ทุกพื้นที่ร่วมสำรวจและตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาตั้งแต่แหล่งน้ำดิบ กระบวนการผลิต ตลอดจนน้ำประปาในครัวเรือน ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเข้าสู่หน้าร้อนบางพื้นที่เริ่มมีปัญหาน้ำแล้ง จะส่งผลให้น้ำมีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค
นพ.อรรถพล กล่าวว่า ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบน้ำในครัวเรือน และปรับปรุงคุณภาพน้ำได้ด้วยตัวเอง 1) สังเกตลักษณะของน้ำประปา ต้องใส ไม่มีตะกอน ไม่มีสี และมีกลิ่นคลอรีนอ่อน ๆ แสดงว่าน้ำปลอดภัย เพราะได้ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว
2) หากกลิ่นคลอรีนฉุนเกินไป ให้เปิดน้ำประปาใส่ภาชนะที่สะอาดทิ้งไว้สักพักกลิ่นจะจางหายไปเอง หรืออาจใช้เครื่องกรองน้ำชนิดที่มีไส้กรองคาร์บอนหรือแบบผงถ่านก็ได้
3) ต้มน้ำให้เดือด เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาดื่มในบ้านเรือน เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก
4) ดูแลความสะอาดเครื่องกรองน้ำ หากที่บ้านใช้เครื่องกรองน้ำ ให้ตรวจสอบการกรองและไส้กรอง เพื่อทำความสะอาด หรือรีบเปลี่ยนไส้กรองน้ำหากพบการอุดตันหรือมีความสกปรกมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกรองน้ำและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
ที่สำคัญ กรมอนามัยยังร่วมกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการในการควบคุม กำกับ และเฝ้าระวังคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน เพราะ น้ำ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับการใช้ชีวิตของประชาชน กรมอนามัยยังคงมุ่งมั่น และให้ความสำคัญ กับการจัดหาน้ำสะอาด ปราศจากการปนเปื้อน ให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ น้ำอาบ และน้ำดื่มในครัวเรือนได้อย่างปลอดภัย