รพ.สงฆ์ จัดตรวจสุขภาพ "สงฆ์-เณร" ใน กทม. ตั้งเป้า 3,000 รูป ใน 50 วัด ประเมินความเสี่ยงสุขภาพ หากเสี่ยงจะนัดตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากตองรักษาเร่งด่วนจะนิมนต์รักษาต่อ พร้อมถวายความรู้เรื่องสุขภาพดูแลตนเอง
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ โดย รพ.สงฆ์ ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพพระภิกษุสามเณรดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย อาทิ เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จัดบริการเชิงรุก ตรวจคัดกรองสุขภาพพระภิกษุสามเณรตามชุดสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อตรวจประเมินสุขภาพ คัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและถวายความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพด้วยตนเองในเบื้องต้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพตนเองและป้องกันโรค
นพ.อภิชัย สิรกุลจิรา ผอ.รพ.สงฆ์ กล่าวว่า รพ.สงฆ์มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพพระภิกษุสามเณรอาพาธทั่วประเทศ จึงร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย จัดทำโครงการ “สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในพระภิกษุสามเณรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร” ปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ ม.ค. – ก.ย. 2567 เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพพระภิกษุสามเณรที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เข้าถึงบริการตรวจสุขภาพได้น้อย และเป็นการตรวจตามชุดสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งการตรวจคัดกรองประกอบไปด้วยการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาค่าน้ำตาล ไขมัน ค่ามะเร็งต่อมลูกหมาก การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) การตรวจคัดกรองผู้สูงอายุ คัดกรองวัณโรคปอดด้วยการเอกซเรย์ การตรวจวัดดัชนีมวลกาย คลินิกโรคอ้วน คลินิกเลิกบุหรี่ การถวายความรู้ตามหลัก 3 อ. (อาหาร, ออกกำลังกาย, อารมณ์) และการถวายความรู้เรื่องการบริหารขันธ์ เป็นต้น โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,000 รูป/ราย จากวัดจำนวน 50 วัด ในเขตกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ เพื่อให้พระภิกษุสามเณรกลุ่มเสี่ยงได้รับการติดตามผลเพื่อการควบคุมป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพให้เกิดความรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ในการดูแลสุขภาพตนเอง เกิดเป็นวัดต้นแบบของการส่งเสริมสุขภาพที่มีโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลสุขภาพพระภิกษุสามเณร และเกิดเครือข่ายความร่วมมือการดำเนินงานและการพัฒนาด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับชุมชน หากตรวจคัดกรองพระภิกษุสามเณรแล้วพบว่าเป็นโรคหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง รพ.สงฆ์จะนัดหมายให้เข้ารับบริการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง หากตรวจพบว่าต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนหรือต่อเนื่องก็จะนิมนต์ให้รักษาต่อที่ รพ.สงฆ์ต่อไป