xs
xsm
sm
md
lg

เคาะแนวทางคุม "น้ำเมา" รับสงกรานต์ฉ่ำ 21 วัน ย้ำผู้ว่าฯ จัดแบบปลอดภัยไร้แอลฯ พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษา 3 เดือนขยายเวลาขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ชลน่าน" นั่งหัวโต๊ะเคาะแนวทางควบคุม “น้ำเมา” รองรับมหาสงกรานต์ 21 วัน เน้นจัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ เข้มบังคับใช้กฎหมาย ชี้สาเหตุหลักจาก “ดื่มแล้วขับ” สงกรานต์ปีก่อนมีคนเจ็บและเสียชีวิตรวม 4,340 ราย พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลขยายเวลาขายดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ดึง "หมอพรเทพ" ประธาน ขีดเส้น 3 เดือน

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่กรมควบคุมโรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งที่ 2/2567 ว่า วันนี้ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ 2 ประเด็น คือ 1.แนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ตามที่กรมควบคุมโรคร่วมกับภาคีเครือข่ายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสนอ ภายใต้แนวคิดรณรงค์ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” โดยบูรณาการร่วมกับแผนปฏิบัติการด้านควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2565-2570) เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ 2566 ที่ผ่านมา พบว่า ปัจจัยหลักยังมาจากการดื่มแล้วขับ โดยวันที่ 11 – 17 เมษายน 2566 มีผู้ดื่มแล้วขับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวม 4,340 ราย เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี 502 ราย และมักเกิดในถนนสายรองมากกว่าถนนสายหลัก

ทั้งนี้ ปีนี้รัฐบาลประกาศจัดกิจกรรม “มหาสงกรานต์ World Songkran Festival” ตั้งแต่วันที่ 1-21 เม.ย. 2567 รวม 21 วัน จึงแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงเตรียมความพร้อมก่อนเทศกาล 1-10 เม.ย. ช่วงเทศกาล 11-17 เม.ย. และหลังเทศกาล 18-21 เม.ย. เน้นมาตรการพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการมาตรการทั้ง 3 ช่วงจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ที่จะมีการประกาศจัดงานสงกรานต์คนละช่วงเวลากัน ตามประเพณีของแต่ละท้องที่ อย่างที่ผ่านมา กทม.จัดช่วงหนึ่ง สมุทรปราการที่ใกล้กันจัดงานคนละช่วง เป็นต้น แต่เชื่อว่าคงไม่ได้มีการเริ่มจัดกันตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ส่วนใหญ่น่าจะเริ่มในสัปดาห์ที่ 2 มากกว่า


นพ.ชลน่านกล่าวว่า แนวทางการควบคุมฯ ยังขอให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด/กทม. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ร้านค้าและประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยส่งเสริมให้นายอำเภอนักรณรงค์มีส่วนร่วมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องการห้ามขายให้แก่เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกประเภท (โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม) ห้ามจำหน่าย/ห้ามบริโภคในสถานที่ที่กฎหมายกำหนด ห้ามขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ 11.00 – 14.00 น. และ 17.00 – 24.00 น. ส่วนพื้นที่ที่มีการประกาศจำหน่ายได้ถึงตี 4 ในสถานบันเทิงก็ให้เป็นไปตามประกาศที่มีอยู่ รวมทั้งให้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทุกราย ด้วยการใช้เครื่องเป่าวัดทางลมหายใจ หากเป่าไม่ได้ให้ส่งเจาะเลือดตรวจที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่มีแอลกอฮอล์เกินกำหนด คือ มากกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ด้วย

นอกจากนี้ ให้เน้นมาตรการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงในชุมชน เพื่อสกัดกั้นคนเมาออกมาสู่ท้องถนน โดยการตั้งด่านครอบครัวและด่านชุมชน และให้มีการคัดกรองพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติฐานขับรถขณะเมาสุราทุกราย พร้อมส่งต่อผู้ถูกคุมประพฤติที่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาที่สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง โดยเบิกค่าใช้จ่ายตามสิทธิการรักษา


นพ.ชลน่านกล่าวว่า 2.เห็นชอบร่างระเบียบและคำสั่ง 5 ฉบับ แบ่งเป็น 1.ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ 1 ฉบับ คือ การเลือกและการแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายฯ และ 2.ร่างคำสั่งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4 ฉบับ ได้แก่ เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่างและแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย หรืออนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกฮอล์ พ.ศ. 2551, เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการพิจารณาการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฯ, เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเรื่องแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลประกอบการกำหนดกรอบระยะเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นไปตามที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ วันที่ 19 ก.พ. 2567 มีมติให้คณะทำงานไปทำการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดกรอบระยะเวลาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไปอย่างรอบคอบ เพื่อดูความเป็นไปได้ในการขยายกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สนับสนุนกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ

"เราดูทั้งเวลาจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ให้ครอบคลุมทุกมิติทุกด้าน เพื่อเอาคำตอบเสนอเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายฯ และเข้าสู่ ครม. เราดูทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ นายกฯ มีข้อสั่งการว่า คำนึงถึงเศรษฐกิจแต่ต้องไม่ละเลยมิติสุขภาพให้สมดุลกัน คณะทำงานต้องไปหาข้อมูลข้อเท็จจริงมาสนับสนุนว่าจะกำหนดมาตรการอย่างไร เช่น ผลที่เกิดจากการขยายเวลาส่งผลด้านเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เทียบกับมิติสุขภาพที่สูญเสียไป เช่น สถิติอุบัติเหตุ ภาวะบาดเจ็บมาเทียบกัน โดยวันนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงานเรียบร้อยแล้ว มี นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ เป็นประธานคณะทำงาน มีตัวแทนทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมกัน มุ่งเน้นข้อมูลข้อเท็จจริงและวิชาการ คาดว่าจะศึกษาให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน" นพ.ชลน่านกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น