"ชลน่าน" นำทีม สธ.รับฟังข้อเสนอเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ ยุติปัญหาเอดส์ในปี 2573 พบยื่น 3 ประเด็น หนุนผู้ติดเชื้อรักษาทุกที่ทั้ง 3 กองทุน เข้าถึงยาต้านไวรัสวันเดียวกับที่รู้ว่าติดเชื้อ พัฒนาระบบบริการ ปรับลดขั้นตอน ใช้บริการชุดตรวจด้วยตนเอง และขจัดการเลือกปฏิบัติตีตรา
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมผู้บริหาร สธ. ทั้งปลัด สธ. อธิบดีกรมควบคุมโรค รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมหารือและรับฟังข้อเสนอจากผู้แทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ สถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี มูลนิธิเพื่อสิทธิเพื่อความหลากหลาย และองค์กรที่ทำงานด้านเอชไอวี/เอดส์ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานยุติเอดส์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอของเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ มี 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ด้านนโยบายสนับสนุนการขับเคลื่อนงานเพื่อยุติเอดส์ โดยให้ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีสามารถเข้ารับบริการรักษาที่หน่วยบริการใดก็ได้ ทั้ง 3 กองทุน เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาด้วยยาต้านไวรัสภายในวันเดียวกับวันที่ทราบว่าติดเชื้อ และสนับสนุนให้หน่วยงานทุกระดับ เช่น รพ.สต. ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ร้านขายยา หน่วยบริการภาคประชาสังคม สามารถให้การป้องกัน การดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี ได้อย่างมีมาตรฐาน
2.ด้านการพัฒนาระบบบริการเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการด้านเอชไอวี โดยขอให้มีการปรับลดขั้นตอนให้ภาคประชาสังคมขึ้นทะเบียนได้สะดวกขึ้น สามารถให้บริการและเบิกชดเชยค่าบริการได้ และสามารถให้บริการชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง เพื่อส่งเสริมการตรวจเอชไอวีให้เป็นเรื่องปกติ รวมถึงเพิ่มการเข้าถึงบริการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด ให้หน่วยบริการทุกแห่งจัดบริการได้อย่างมีมาตรฐาน
3.ด้านการดำเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจและขจัดการเลือกปฏิบัติ โดยจัดทำแผนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในภาพรวมระดับประเทศ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ตระหนักถึงปัญหา ลดการรังเกียจตีตราและเลือกปฏิบัติ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ ปี พ.ศ. 2560 – 2573 โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ช่องทางการเข้าถึงการรับบริการ
“สธ.มีเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อยุติปัญหาเอดส์ในปี 2573 โดยประชาชนได้รับบริการที่มีมาตรฐานและปลอดภัย เบื้องต้นได้รับข้อเสนอดังกล่าวมาพิจารณา ซึ่งบางประเด็นเป็นปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงาน บางประเด็นเกี่ยวข้องกับนโยบาย จึงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับผู้แทนเครือข่ายฯ จัดทำแผนเชิงปฏิบัติการที่นำไปสู่การยุติเอดส์ โดยปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้สอดคล้อง เหมาะสม คำนึงถึงมาตรฐานและความปลอดภัยของผู้รับบริการ” นพ.ชลน่านกล่าว