xs
xsm
sm
md
lg

สิ้นจิตรกรชื่อดัง “อ.สุรเดช แก้วท่าไม้” เสียชีวิตแล้ว สิริอายุ 60 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แวดวงศิลปะไทยเศร้า! สิ้น “อาจารย์ สุรเดช แก้วท่าไม้” เสียชีวิตแล้ว สิริอายุ 60 ปี

วันนี้ (8 มี.ค.) รายงานข้าวแจ้งว่าอาจารย์ สุรเดช แก้วท่าไม้ ศิลปินอิสระที่มีผลงานแสดงภาพเขียนทั้งในและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอทั้งยังเคยเป็นนักแสดงและนักร้องเพลงประกอบหนังของท่านมุ้ย ได้จากไปก่อนวัยอันควรสิริอายุ 60 ปี

อาจารย์สุรเดชเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมผลงานเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการศิลปะของประเทศไทยและเคยเป็นอาจารย์พิเศษที่ภาควิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มุ่งมั่นกับการสร้างสรรค์และการสอน เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาจำนวนมาก

อาจารย์สุรเดช แก้วท่าไม้ ศิลปินผู้วาดภาพเหมือนได้อย่างสมจริงมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย

อาจารย์สุรเดชจบการศึกษาระดับปริญญาโท จากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

โดยผลงานของอาจารย์สุรเดชได้รับแรงบันดาลใจจากภาพเขียนนางในวรรณคดีของอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ผลงานของอาจารย์สุรเดช จึงมีความงดงามในเชิงอุดมคติ จากการเลือกใช้สีและจัดวางองค์ประกอบอันลงตัว

อาจารย์สุรเดชเป็นหนึ่งในศิลปินที่ร่วมจัดแสดงผลงานในนิทรรศการ “พระราชาในดวงใจ” ชื่อผลงาน “คีตราชินทร์ นวมินทร์ราชัน” และ “แสงเดือนฉายที่ปลายฟ้า” ณ ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2560

สำหรับอาจารย์ สุรเดช เป็นชาวจังหวัดสมุทรสาคร เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2506 ก้าวเข้าสู่วงการศิลปะโดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพเขียนนางในวรรณคดีของ อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต จบการศึกษาที่คณะจิตรกรรมประติกรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า อาจารย์เคยให้สัมภาษณ์กับ Hello Magazine ว่างานศิลปะต้องมี 3 เสา ดังนี้ คือ ฝีมือ ไอเดีย และรสนิยม จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เพื่อให้งานมีความสมบูรณ์แบบน่าสนใจน่ามองมากยิ่งขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับไปตอนที่เขายังอยู่เพียง ป.1 เขาเห็นหน้าปกวารสารในห้องสมุดโรงเรียนที่คุณพ่อเขาเป็นครู เป็นรูปนักเรียนเพาะช่างนั่งอยู่กับขาหยั่งศิลปะเขาบอกคุณพ่อว่า โตขึ้นอยากเป็นแบบนี้

“เส้นทางชีวิตผมมีเส้นทางจิตรกรแค่เพียงเส้นเดียวแต่เป็นเส้นที่ยาวมากก็เดินทางไปเรื่อยๆ อาจมีบางช่วงบางตอนของชีวิตทีี่เจอทางแยก แล้วเราก็หลงเลี้ยวออกไประยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมายังเส้นทางหลัก มาวันนี้ผมดีใจและภูมิใจที่ตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ โดยมีผู้สนับสนุนที่ให้กำลังเราเยอะมาก”








กำลังโหลดความคิดเห็น