สธ.เผยไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี "อยุธยา" คุมเพลิงได้แล้ว ไม่มีผู้ป่วยหรือบาดเจ็บ แต่ยังมีกลิ่นควันวงกว้าง สั่ง รพ.ภาชีเปิดศูนย์ฉุกเฉินรองรับ ลดรับผู้ป่วยใน ให้ผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงกลับบ้าน ย้ายผู้ป่วยเข้าห้องแยกมีเครื่องฟอกอากาศ เตรียมทีม MCATT และจุดล้างตัวหากพบปนเปื้อนสารเคมี
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โกดังเก็บสารเคมีดังกล่าว ช่วงเวลา 22.15 น. วันที่ 29 ก.พ. โดยมีกลิ่นควันสารเคมีตามทิศทางลมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร รพ.ภาชีจึงเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินรองรับสถานการณ์ทันที ขณะที่ทางพื้นที่ได้เร่งเข้าควบคุมเพลิง รวมถึงส่งรถโฟมมาที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมสถานการณ์ด้วย ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ไฟเริ่มมอดและมีควันน้อยลง สถานการณ์โดยรวมถือว่าดีขึ้น
นพ.โอภาสกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังมีผลกระทบในเรื่องของกลิ่นควันสารเคมีที่กระจายเป็นวงกว้าง แต่กลิ่นลดลง ไม่มีผู้ป่วยหรือเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ได้มอบหมายให้ รพ.ภาชียังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินไว้ก่อน เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์ร่วมกับทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) และลดการรับผู้ป่วยเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน (Admit) โดยประสาน รพ.ใกล้เคียงส่งต่อผู้ป่วยกรณีจำเป็นต้องนอน รพ.และผู้ป่วยคลอด ส่วนผู้ป่วยในที่อาการไม่รุนแรงแพทย์จะพิจารณาให้กลับบ้านและรักษาแบบผู้ป่วยนอก รวมทั้งได้ปรับการดูแลผู้ป่วยที่นอนรักษาใน รพ. เพื่อลดผลกระทบจากกลิ่นควันสารเคมี โดยย้ายผู้ป่วยสามัญเข้าห้องแยก ปิดประตูหน้าต่าง และใช้เครื่องฟอกอากาศ พร้อมให้ความรู้การปฏิบัติตัวแก่เจ้าหน้าที่และผู้ป่วย
นอกจากนี้ ยังเตรียมทีมดูแลเยียวยาจิตใจ (MCATT) และจุดล้างตัวสำหรับผู้ป่วยหรือเจ้าหน้าที่ที่พบการปนเปื้อนสารเคมี และเตรียมสนับสนุนหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ให้หน่วยต่างๆ ในอำเภอด้วย