"วัยรุ่น" ป่วยกามโรคพุ่ง ติด "ซิฟิลิส" เพิ่มขึ้น 3 เท่า ใช้ถุงยางสม่ำเสมอไม่ถึง 40% กรมควบคุมโรคเปิดช่องทางกดถุงยางอนามัย-ชุดตรวจเอชไอวี พ่วง "ตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ" เพิ่มสะดวก ลดเขินอาย ถูกตีตรา กล้าใช้มากขึ้น นำร่อง 10 แห่งทั่ว กทม. ทั้งห้าง-มหา'ลัย-ชุมชน พบของหมดอย่างไว
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมฯ ดำเนินการเรื่องถุงยางอนามัย ทุกเวลา ทุกที่ (Condom anytime, anywhere) นำร่องเปิดตัวตู้กดถุงยางอนามัยอัตโนมัติในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ที่ลานอัฒจันทร์ ชั้น LG สยามสแควร์วัน กทม. โดยกรมได้หารือกับภาคเอกชนที่ดำเนินการเรื่องตู้ขายเครื่องดื่มและขนมอัตโนมัติ ขณะนี้มี 1 บริษัท คือ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ที่จะทดลองดำเนินการให้เป็นลักษณะของ CSR เพื่อเป็นตัวอย่าง ด้วยการนำถุงยางอนามัยและชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ไปใส่ไว้ในตู้ดังกล่าวแล้วให้สามารถกดใช้ได้ฟรี โดยนำร่อง 10 แห่งทั่ว กทม. ทั้งห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย และชุมชน เนื่องจากชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง สปสช.จัดอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของทุกคนอยู่แล้ว ขณะที่ถุงยางอนามัย กรมฯ และ สปสช.มีการจัดซื้อเพื่อแจกเป็นประจำทุกปี แต่มีปัญหาเรื่องกระจาย จึงต้องประสานความร่วมมือกับเอกชน ในเรื่องของการช่วยกระจายผ่านตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ
"ก่อนหน้านี้มีการตั้งตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยตามห้องน้ำชาย ในโรงแรมที่มีการจ่ายตัง ตู้ก็เสียไปหมดแล้ว หลังๆ คนไม่กล้าใช้ พอเราจะใช้ตู้เวนดิ้งไปตั้งที่สาธารณะ เอาเฉพาะถุงยางอนามัยและ Self Test เอชไอวีโดยเฉพาะ คนก็อายไม่กล้าที่จะไปกด ขนาดในร้านสะดวกซื้อยังมองซ้ายมองขวา เราเลยเอาตู้ที่ขายน้ำ ขนม คนก็จะกล้าไปกด เพราะคนอื่นจะไม่รู้ว่าเข้ากดเครื่องดื่ม ขนม หรืออะไร ซึ่งสามารถกดเอาถุงยางและชุดตรวจได้ฟรี ยกเว้นแต่จะซื้อน้ำหรือของกินก็จะเสียเงิน" นพ.ธงชัยกล่าว
นพ.ธงชัยกล่าวว่า เรามีการทดลองติดตั้ง 2 ตู้ที่สยามสแควร์วัน และมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ภายในครึ่งชั่วโมงก็แทบว่าหมดตู้ ส่วนการที่กรมต้องดำเนินการรณรงค์ให้คนใช้ถุงยางอนามัย เนื่องจากปัจจุบันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยุร่น เพราะคนไม่กลัวการตั้งครรภ์ โดยเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมเข็มเดียว จึงไม่ใช้ถุงยางอนามัย กรมจำเป็นต้องรณรงค์เรื่องการใช้ถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยไม่เฉพาะป้องกันการตั้งครรภ์
สำหรับสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคฟิซิลิส ที่พบอัตราป่วยในปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 2561 จากอัตราป่วย 11 เพิ่มเป็น 24.8 ต่อประชากรแสนคน และเพิ่มขึ้น 3 เท่าในกลุ่มเยาวชน จากอัตราป่วย 27.9 เพิ่มเป็น 90.5 ต่อประชากรแสนคน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย สอดคล้องกับข้อมูลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอขไอวี ปี 2562 ที่พบว่า เยาวชนมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยครั้งล่าสุดที่มีเพศสัมพันธ์ เพียง 80% และใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งกับแฟนและคนรักไม่ถึง 40%
ตู้กดถุงยางอนามัย ทุกเวลา ทุกที่ (Condom anytime, anywhere) ถือเป็นการนำแนวทางแก้ปัญหาใหม่ๆ เข้าให้กับสังคม ไม่ใช่จะดำเนินการเรื่องใดแล้วจะไม่มีแนวทางใหม่ๆ เข้าไปดำเนินการ ถ้าทำแบบเดิม ผลลัพธ์ก็จะแบบเดิมๆ เช่น ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง อยากให้ประชาชนเข้าใจเรื่องเอชไอวีใหม่ว่า ต้องกล้าที่จะตรวจ สมัยก่อนอาจจะกลัวการตรวจ กลัวจะเป็นเพราะไม่มียา ติดเชื้อแล้วก็เสียชีวิต แต่ปัจจุบันการรักษาเปลี่ยนไป หากกินยาสม่ำเสมอ การกินยาโอกาสแพร่เชื้อต่อน้อยมาก แม้มีเพศสัมพันธ์ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่คิดว่าติดเชื้อแล้วจะเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงในการที่จะติดเชื้อ ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วย จะต้องเปลี่ยนความคิดเป็นกลัวติดโรค แต่ไม่ใช่กลัวว่าติดแล้วจะไม่มีการรักษา เพราะถ้าตรวจด้วยตัวเองแล้วพบติดเชื้อ ก็สามารถพบแพทย์เพื่อยืนยันผล หากผลบวกก็เข้ารับการรักษา รับยามารับประทานสม่ำเสมอ คนป่วยอายุยืนกว่าคนปกติก็มี
“ต้องทำความเข้าใจว่าการช่วยให้เข้าถึงถุงยางอนามัยได้สะดวก วันนี้เป็นการให้ป้องกันโรค ไม่ได้ส่งเสริมให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้มีความรู้และเข้าถึงการป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ เพราะสังคมเปลี่ยนไปแล้ว จากเมื่อก่อนวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เพราะกลัวเรื่องท้อง ปัจจุบันไม่มีกลัวเรื่องนี้ เพราะใช้วิธีการป้องกันตั้งครรภ์อย่างอื่น จึงต้องมาให้ความรู้เรื่องใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” นพ.ธงชัยกล่าว
ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ ตรงกับวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปี หรือ "วันแห่งความรัก" สปสช. ขอร่วมสนับสนุน กรมควบคุมโรค รณรงค์เทศกาลวาเลนไทน์ปี 2567 “รักฉ่ำ ปิดจบด้วยถุง: Condom anytime, anywhere” ที่เป็นการป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อม และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ การติดเชื้อเอชไอวี หนองใน ซิฟิลิส เป็นต้น ทั้งนี้ ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมคนไทยทุกสิทธิการรักษาเพื่อป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งบริการคุมกำเนิด เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาฉีดคุมกำเนิด และ ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง เป็นต้น และบริการถุงยางอนามัย
สำหรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น เป็นการให้บริการหญิงไทยอายุระหว่าง 15-59 ปี ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี เข้ารับบริการได้ที่หน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ หน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้าร่วมโครงการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาลรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และร้านยา เป็นต้น โดยวิธีรับบริการ มี 2 วิธี ดังนี้
1.รับบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้เลือกที่เมนูกระเป๋าสุขภาพ คลิกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค คลิกยาเม็ดคุมกำเนิด จะปรากฏข้อมูลเงื่อนไขการรับบริการ จากนั้นให้คลิกดูหน่วยบริการ ซึ่งท่านสามารถค้นหาหน่วยบริการและนัดวันเพื่อไปรับยาคุมกำเนิดได้ หลังจากนั้นให้ไปรับยาคุมกำเนิดที่หน่วยบริการตามวันที่นัดไว้ในระบบ
2.กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้นำบัตรประชาชน มาดำเนินการลงทะเบียน เพื่อรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ส่วนบริการถุงยางอนามัยในปีงบประมาณ 2567 นี้ สปสช. ได้จัดเตรียมไว้จำนวน 70 ล้านชิ้น ตั้งเป้าหมายให้บริการประชาชนอายุ 15 ปี ทุกสิทธิทั่วประเทศ จำนวน 4,200,000 คน ซึ่งสามารถรับบริการ โดยได้รับถุงยางอนามัยได้ครั้งละ 10 ชิ้นต่อคน/สัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้งต่อคนต่อปี มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม.
ส่วนขั้นตอนการรับถุงยางอนามัย สามารถรับบริการได้ที่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเช่นกัน โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเช่นเดียวกับวิธีการรับบริการยาคุมกำเนิด เลือกเมนูกระเป๋าสุขภาพ คลิกที่สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค และเลือกคลิกที่ถุงยางอนามัย ทำการเลือกหน่วยบริการและนัดหมายการรับบริการ จากนั้นให้ไปรับถุงยางอนามัยตามวันที่นัดไว้
นอกจากนี้ยังสามารถนำบัตรประชาชนไปรับถุงยางอนามัยผ่าน “ตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ เลิฟปัง รักปลอดภัย’ ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ บมจ.สบายเทคโนโลยี โดยตั้งตู้ให้บริการ 16 จุด ดังนี้
ชลบุรี 5 จุดบริการ : โรงพยาบาลเมืองพัทยา ท่าเรือแหลมบาลีฮาย (2 ตู้) เซ็นทรัลพัทยา ชั้น 1 เซ็นทรัลพัทยา ชั้น 6 เซ็นทรัล มารีน่า พัทยา ชั้น 1
ปทุมธานี 3 จุดบริการ : มหาวิทยาลัยรังสิต ตึกเภสัชศาสตร์ หมู่บ้านรังสิตซิตี้ (แฟลตบางทอง) และมหาวิทยาลัยราชภัฏราชภัฏวไลยอลงกรณ์ (อาคารพยาบาล)
กรุงเทพฯ 4 จุดบริการ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, คลีนิกเวชกรรมอารีรักษ์ คลองเตย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พาณิชยการพระนคร (คณะบริหารธุรกิจ หน้าห้องพยาบาล), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พระนครเหนือ (หน้าห้องพยาบาลแผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์เทเวศร์ (อาคาร 4 ข้างห้องพยาบาล)
นนทบุรี 1 จุดบริการ : ตลาดต้นสัก ต.บางกระสอ อ.เมือง
สระบุรี 1 จุดบริการ : ห้างสุขอนันต์ ปาร์ค สระบุรีในระบบ