xs
xsm
sm
md
lg

ระวัง!! ช่วงฤดูฝุ่น PM 2.5 คลุ้ง ทำผู้ป่วยเรื้อรัง อาการกำเริบมารักษาสูงขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์ชี้ช่วงฤดูฝุ่น PM 2.5 คลุ้ง มีผลผู้ป่วยปอดอุดกั้น หอบหืด อาการกำเริบ มารักษาสูงขึ้น แยกวินิจฉัยจากการดูพื้นที่และค่าฝุ่นตลอดช่วงสัปดาห์ เหตุผู้ป่วยเรื้อรังอาการไม่ได้กำเริบในวันค่าฝุ่นสูง แต่จะกำเริบภายหลังจากที่อักเสบ แจงผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อยให้กินยาดูแลเบื้องต้นก่อน หากกำเริบหนักขึ้นให้มา รพ.

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. พญ.เปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรม หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรมปอด สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ต่อระบบทางเดินหายใจ ที่ทำให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้กำเริบมากขึ้นในช่วงฤดูฝุ่น ว่า ไม่มีตัวแยกหรือบ่งชี้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นๆ ก็จะมีกลุ่มไวรัสร่วมด้วย บางครั้งก็อาจเป็นไวรัสกระตุ้น แต่หากเป็นแบคทีเรียกระตุ้น ส่วนมากจะมีอาการร่วม เช่น มีไข้ร่วมด้วย เป็นตัวช่วยสังเกตได้ แต่จะบอกว่ามาจากฝุ่น 100% อันนี้ยังบอกไม่ได้ รู้เพียงว่า หากแนวโน้มค่าฝุ่นสูงมากๆ ก็จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน  เช่น หากสัปดาห์นี้ค่าฝุ่น PM2.5 สูงจริงขึ้นมา 60-70 มคก./ลบ.ม. ก็น่าจะเกี่ยวข้องกัน

“หากมีอาการไอ แสบจมูก น้ำมูกไหล จามตลอด ก็ต้องมาดูว่า ช่วงนั้นค่าฝุ่นเยอะหรือไม่ หากใช่ก็อาจเกี่ยวกัน แต่หากสัมพันธ์เชื้อโรค อาจมีอาการอื่น มีไข้ร่วมด้วย” พญ.เปี่ยมลาภ กล่าว


เมื่อถามว่าสถาบันโรคทรวงอก มีแยกกลุ่มอาการที่คนไข้มารักษาว่ามาจากฝุ่นหรือจากโรคหรือไม่ พญ.เปี่ยมลาภ กล่าวว่า สถาบันฯ จะตรวจวินิจฉัยคนไข้ที่มารักษา ด้วยการซักถามประวัติว่า อยู่ที่ไหน บริเวณใด ก็จะไปดูว่า พื้นที่นั้นมีค่า PM 2.5 อยู่ระดับเท่าไร อย่างค่าอยู่ที่ 40-50 มคก./ลบ.ม. ก็อาจเกี่ยวเนื่องได้ แต่เรื่องของการกำเริบกรณีของคนที่ป่วยเป็นโรคอยู่แล้ว เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ COPD โรคถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด บางครั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่าฝุ่นสูงๆ แต่อาการจะไม่เกิดในวันเดียวกัน เพราะจะต้องมีการกระตุ้นการอักเสบของหลอดลม บางคนจะเกิดอาการในวันที่สอง วันที่สาม ดังนั้น การดูความสัมพันธ์ต้องดูทั้งสัปดาห์ และต้องดูปัจจัยอื่นๆร่วม อย่างการพิจารณาค่าฝุ่นของพื้นที่ที่เราอยู่ ซึ่งสามารถดูได้ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือ เว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th ของกรมควบคุมมลพิษ

พญ.เปี่ยมลาภ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันฯ จะเจอคนไข้เข้าข่าย ก็จะเป็นช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงจริงๆ เพราะคนไข้จะมาด้วยอาการ ไอเยอะ เหนื่อยเหมือนกัน อย่าง ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา มีช่วงหนึ่งตลอดสัปดาห์ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เกิน 50 มคก./ลบ.ม. ประกอบกับคนไข้มีอาการเพิ่มขึ้น จึงคิดว่าเกี่ยวเนื่องกัน แต่หากค่า PM ไม่สูง อันนี้แยกยาก

เมื่อถามว่าประชาชนจะสังเกตเบื้องต้นอย่างไรว่า อาการที่เกิดขึ้นอาจมีผลจากฝุ่นPM2.5 พญ.เปี่ยมลาภ กล่าวว่า จริงๆไม่ได้มีมาร์คเกอร์ว่า อันนี้สัมพันธ์กันหรือไม่ แต่คำถามแรก ที่เราต้องตอบคือ วันนั้นเราอยู่ที่ไหน อยู่ในพื้นที่ค่าฝุ่นสูงหรือไม่ หรือเราอยู่ในห้อง และไม่ได้ออกกลางแจ้งเลย ซึ่งหากไม่ได้ไปไหนก็อาจไม่เกี่ยวข้องกัน เมื่อเราแยกแล้ว หากเกี่ยวข้อง ก็ต้องมาดูว่าอาการรุนแรงหรือไม่ หรือเราป่วยโรคเกี่ยวกับปอดอยู่แล้ว และกำเริบขึ้น ทั้งเหนื่อย มีเสลดมากขึ้น ก็ควรมาโรงพยาบาล แต่กรณีที่มีอาการเล็กน้อย เช่น เจ็บคอ แสบจมูก หากมียาก็ทานก่อนได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แจ้งเตือนขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่จากแอปพลิเคชัน Air4Thai พร้อมกับปรับกิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน หากค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ขอให้ลดกิจกรรม/การออกกำลังกายกลางแจ้ง หากต้องอยู่ในพื้นที่ค่าฝุ่นสูง ควรใส่หน้ากากชนิด N95 และไม่ควรอยู่เป็นเวลานาน สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ ส่วนอาการที่เกิดจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 อาทิ แสบตา แสบจมูก อึดอัด แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ปวดศีรษะ อาเจียน ระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งหากอาการไม่ทุเลาควรไปพบแพทย์


กำลังโหลดความคิดเห็น