มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จี้รัฐหยุดแนวคิดเพิ่มสลากดิจิทัล –ออกรางวัลถี่ งานวิจัยชี้ชัดไม่ได้ทำให้คนเล่นหวยลดลง กลับเล่นหนักขึ้น ซัดพฤติกรรมไม่แตกต่างจากคนทำพนันผิดกฎหมาย หวังดึงเงินคนออกจากกระเป๋ามากที่สุด
จากกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทยอยเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 23 ล้านใบ เป็น 30 ล้านใบในปี 2567 อีกทั้งยังมีแนวคิดให้มีการเติมสลากระหว่างงวดในงวดที่สลากดิจิทัลขายดีอีกครั้งละ 1 ล้านใบ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ผู้ที่เดินขายสลากผ่านทางไอแพด และโทรศัพท์มือถือได้ โดยจะทดลองออกสลากตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 กลางปีนี้ และเพิ่มเงินรางวัลเป็นแรงจูงใจ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อาจจะออกรางวัลถี่ขึ้น เช่น ทุก 3 วัน หรือทุกๆ วัน เพื่อมาสู้กับหวยใต้ดิน เว็บหวยออนไลน์ที่อิงผลหวยเพื่อนบ้าน และการพนันออนไลน์
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนอยากให้สำนักงานสลากกินแบ่งฯ เพลาๆ แนวคิดดังกล่าวไว้บ้าง ต้องไม่ลืมว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนันโดยรัฐ ดังนั้นสมควรหรือไม่ที่รัฐคิดจะทำการพนันสะดวกซื้อ (convenience gambling) เพราะจะทำให้ประชาชนซื้อสลากมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้การเล่นหวยใต้ดินลดลงอย่างที่คิด ทั้งนี้ มีผลสำรวจทางวิชาการยืนยันว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาที่มีการพิมพ์สลากเพิ่มจาก 36 ล้านใบ มาเป็น 100 ล้านใบ ทำให้จำนวนคนซื้อสลากขยายตัวขึ้นเฉลี่ยปีละเกือบ 1 ล้านคน รวมถึงเด็กและเยาวชนด้วย และจำนวนการซื้อสลากเฉลี่ยต่อครั้งต่อคนก็เพิ่มจากคนละไม่เกิน 2 ใบ มาเป็นเกือบ 5 ใบ ผลสำรวจยังพบว่าหวยใต้ดินมีการเติบโตแทบจะในอัตราเดียวกันกับสลากกินแบ่งรัฐบาล ราว ๆ 8% เพราะในความเป็นจริงคอหวยเกิน 70% จะซื้อทั้งหวยรัฐบาลและหวยใต้ดินพร้อมกัน
ฉะนั้น แนวคิดการเพิ่มหวยรัฐเพื่อมาพิฆาตหวยใต้ดินจึงเป็นความคิดที่ผิด จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนแนวคิดการเพิ่มจำนวนสลากดิจิตัลไปเรื่อย ๆ นี้ รัฐควรกำหนดเพดานที่ชัดเจนว่าควรมีจำนวนเท่าไหร่ถึงไม่เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเสียเงินไปกับหวยจนเกินไป ซึ่งที่ผ่านมาโฆษกของบอร์ดกองสลากเคยพูดหลายครั้งว่าอยู่ที่ไม่เกิน 100 ล้านใบ ส่วนตัวมองว่าอาจเป็นเพดานที่สูงเกินไปด้วยซ้ำ แต่หากต้องการเพิ่มจำนวนสลากดิจิตัลเพื่อให้ประชาชนได้ซื้อสลากตามราคาที่กำหนดได้มากขึ้น ก็ควรไปหาช่องทางในการผ่องถ่ายฉลาก 80 ล้านใบ มาขายในแพลตฟอร์มดิจิตัลมากกว่า ถึงจะช่วยแก้ปัญหาสลากใบราคาแพงให้ถูกลงได้ ไม่ใช่ไปเลือกวิธีเพิ่มจำนวนสลากดิจิตัล ซึ่งเป็นการตีเนียนหารายได้เพิ่ม
“ยิ่งเมื่อหันมามองแนวคิดการออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เพราะ 1.สลาก N3 ดูแล้วมีทีท่าว่าจะสู้ไม่ชนะหวยใต้ดิน เพราะไม่มีจุดแข็งอะไรที่เหนือกว่า ทั้งด้านราคาและรางวัล มีแต่จะทำให้สลาก N3 เป็นผู้ตามในตลาดมากกว่าจะเป็นผู้นำ และหวังได้เพียงการสร้างรายได้ให้รัฐเพิ่มขึ้นเท่านั้น 2.การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สะดวกซื้อทั้งการเข้าถึง และมีความถี่เป็นทุก 3 วันหรือทุก ๆ วัน ยิ่งจะเป็นการพาออกทะเลไปกันใหญ่ เป็นปัญหาซ้ำรอยเดิม คือไม่ได้ทำให้การเล่นพนันหวยเพื่อนบ้านและพนันออนไลน์ลดลง แต่จะยิ่งนำพาให้คนไทยใช้เงินใช้เวลากับการพนันที่รัฐจัดให้มากขึ้นไปทุกที ที่อยากถามรัฐบาลและกองสลาก ก็คือ การพนันโดยรัฐควรมีเพื่อจูงใจให้ประชาชนเล่นพนันอย่างเหมาะสมในระดับเป็นสันทนาการ ไม่ไปหลงเป็นเหยื่อให้แก่การพนันผิดกฎหมายที่เอารัดเอาเปรียบ หรือรัฐควรทำการพนันเพื่อหวังมาเอาเงินจากประชาชนเหมือนกับที่พนันผิดกฎหมายทำ แบบนี้แล้วความรับผิดชอบของรัฐควรอยู่ที่ไหน” นายธนากร กล่าว