ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า “นวัตกรรม” หรือที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้คำนิยามไว้ว่า สิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น นับเป็นฟันเฟืองที่สำคัญมากในการผลักดันให้ธุรกิจต่าง ๆ ก้าวไปข้างหน้า เนื่องจากวิถีชีวิต พฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนเราจำเป็นต้องนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา พัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น รวมถึงสร้างความพึงพอใจให้มากขึ้นด้วย อุตสาหกรรมบริการก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องก็ล้วนต้องพึ่งพานวัตกรรมในการดำเนินงานทั้งในส่วนของหน้าร้านและหลังร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่นักท่องเที่ยวไม่ได้มองหาแค่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ต้องการประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ จากการเดินทางด้วย
หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าที่สอนด้านธุรกิจบริการในเครือโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเปิดสอน 3 กลุ่มวิชา หนึ่งในนั้นคือกลุ่มวิชาผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรม (Innovative Entrepreneur) จึงได้จัดงานเซ็น MoU ทำความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือที่เรียกย่อๆ ว่า NIA (National Innovation Agency) โดยมี ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร รักษาการอธิการบดี วิทยาลัยดุสิตธานี และ คุณปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นผู้แทนลงนามจากทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้วิทยาลัยดุสิตธานีเล็งเห็นว่า ผู้เรียนหลักสูตรปริญญาโทกลุ่มวิชาผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรมดังกล่าว จำเป็นต้องได้รับการบ่มเพาะทักษะและองค์ความรู้เชิงนวัตกรรมจากหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมโดยเฉพาะ ซึ่งคงเป็นที่ใดไม่ได้เลย นอกจาก NIA นั่นเอง เพราะ NIA มีภารกิจในการส่งเสริมการสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติและสร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม รวมถึงยกระดับทักษะและความสามารถทางนวัตกรรมของกลุ่มเป้าหมายทั้งกลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มผู้ประกอบการ บริษัทขนาดกลางและใหญ่
หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิทยาลัยดุสิตธานี กลุ่มวิชาผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรม ไม่เพียงมุ่งบ่มเพาะให้ผู้เรียนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะรอบด้านที่จำเป็นต่อการบริหารธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านการสร้างนวัตกรรมให้กับธุรกิจด้วย ทั้งด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบการบริการ หรือแม้แต่การใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนากระบวนการการทำงาน อันจะนำไปสู่การเป็นธุรกิจที่ทันสมัยและประสบความสำเร็จ โดยทาง NIA จะคัดสรรผู้ที่มีประสบการณ์จริงจากภาคอุตสาหกรรมมาเป็นอาจารย์ผู้สอน แลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ต่างๆ ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมอันหลากหลายของ NIA ซึ่งนับเป็นเอกสิทธิ์สำหรับผู้เรียนในกลุ่มวิชานี้เท่านั้น
“การทำธุรกิจทั่วไปอาจประสบความสำเร็จได้ก็จริง แต่ถ้าทำธุรกิจนวัตกรรม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโต” คุณเต๊ะ-ปริวรรต วงษ์สำราญ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาจารย์ผู้สอน กล่าวขณะร่วมการเสวนาหัวข้อ “สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ด้วยแนวคิดนวัตกรรม” ในพิธีลงนามความร่วมมือที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ “ยกตัวอย่างเช่นเทสล่า แต่ก่อนสู้อีกหลาย ๆ บริษัทระดับโลกไม่ได้ แต่เมื่อมีการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ ก็ทำให้เติบโตได้สูงจนเป็นผู้นำระดับต้น ๆ ของโลก ทั้งนี้นักศึกษาทั้งที่ยังเรียนอยู่หรือสำเร็จการศึกษาไปแล้วสามารถขอทุนสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการจาก NIA ได้ นอกจากนี้ NIA ยังช่วยผลักดันธุรกิจของนักศึกษาออกไปสู่ตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ การเรียนปริญญาโทที่นี่จึงไม่ใช่แค่การเรียนเพียงอย่างเดียว แต่นับเป็นโอกาสอย่างหนึ่งที่นักศึกษาสามารถนำสิ่งสิ่งที่เรียนไปต่อยอด โดยการขอการสนับสนุนจาก NIA ไม่ว่าจะในรูปแบบเงินทุนหรือองค์ความรู้ต่าง ๆ”
นอกจากมีกลุ่มวิชาผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรมแล้ว หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิทยาลัยดุสิตธานี ยังมีอีก 2 กลุ่มวิชา ได้แก่ กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจการบริการ (Hospitality Business Management) และ กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจอาหาร (Gastronomy Business Management) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิชาใด ก็ล้วนบ่มเพาะและผลักดันให้ผู้เรียนมีทักษะและความเชี่ยวชาญอย่างเจาะลึกในด้านนั้นๆ ด้วยการผสานองค์ความรู้และประสบการณ์ทั้งจากอาจารย์ผู้สอนของวิทยาลัยและจากการทำความร่วมมือกับหน่วยงานที่เชี่ยวชาญภายนอก เหมือนเช่นที่วิทยาลัยดุสิตธานีทำความร่วมมือกับ NIA ในครั้งนี้